ม้ทีมจะห่างชั้นกันมากแต่คงไม่มีใครคาดคิดว่าสกอร์นัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ จะออกมามโหฬารขนาดนี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปิดท้ายฤดูกาลด้วยความสุดยอดถล่ม วัตฟอร์ด ถึงครึ่งโหล ซิวแชมป์ที่ 3 ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ ซึ่งก็คือถ้วยเอฟเอ คัพ สมัยที่ 6 ของพวกเขา หลังเกมเรามีประเด็นให้พูดถึงกันมากมาย เรามาเจาะลึกกันทีละเรื่องเลย

1.สามแชมป์บอลอังกฤษ

   ในที่สุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่กวาดสามแชมป์ในประเทศอังกฤษฤดูกาลเดียวประกอบไปด้วย แชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 6, แชมป์คาราบาว คัพ สมัยที่ 6 และแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 6 ขนาดยังไม่รวมถึงโล่คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ทีมคว้ามาได้เมื่อก่อนเปิดฤดูกาลรวมเป็น 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ก็ว่าได้ นอกจากนี้ เรือใบสีฟ้า ยังเป็นทีมที่ 4 ที่คว้าสองแชมป์บอลถ้วยในอังกฤษฤดูกาลเดียวต่อจาก อาร์เซน่อล (1992-93), ลิเวอร์พูล (2000-01) และเชลซี (2006-07)

2.ซูฮกเป๊ป

   แผนการ "เดินหน้าฆ่าให้ตาย" ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่มีใครหยุดอยู่จริงๆ หลังจากที่วัตฟอร์ดพลาดโอกาสช่วงต้นเกม เรือใบสีฟ้า ก็ลุยใส่คู่แข่งแบบไม่มีผ่อน เข้าบีบพื้นที่สูงจนกระทั่งผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา ไม่ว่า แมนฯซิตี้ จะยิงเพิ่มอีกสักกี่ลูกพวกเขาก็จะเล่นแบบเดิมเพิ่มเติมคือความมั่นใจของผู้เล่นที่มากขึ้นไปอีก แม้กระทั่งสำรองอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ก็ยังลงมายิง 1 จ่ายอีก 1 ด้วยซ้ำ

    ความสุดยอดของ แมนฯซิตี้ ฤดูกาลนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างแท้จริง เขาพาทีมเรือใบสีฟ้าทำสถิติคว้าชัยชนะถึง 50 นัดในทุกรายการซึ่งเป็นทีมแรกที่ทำได้ในประวัติศาตร์ทีมอังกฤษ และเขายังมีสถิติที่ยอดเยี่ยมเมื่อพาทีมเข้าชิงชนะเลิศเนื่องจากแพ้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น (โกปา เดล เรย์ ปี 2011) จากทั้งหมด 12 นัดที่เข้าชิงชนะเลิศ 

3.สุดยอดราฮีม

เป็นฤดูกาลที่ต้องพูดได้คำเดียวว่า "สุดยอด" สำหรับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซีซั่นนี้เขามีส่วนร่วมกับประตูมากถึง 40 ประตูจากการลงเล่น 51 นัดในทุกรายการ แม้เกมนี้เขาจะอดมีชื่อทำแฮตทริคเนื่องจากประตูที่สองทาง เอฟเอ เปลี่ยนชื่อคนยิงเป็น กาเบรียล เฆซุส แต่การยิงสองประตูก็ทำให้เขาสอยตาข่ายแตะหลัก 100 ประตูในอาชีพการค้าแข้งของเขา (69 ประตูกับ แมนฯซิตี้, 23 ประตูกับ ลิเวอร์พูล, 8 ประตูกับทีมชาติอังกฤษ)

4.วัตฟอร์ดหงอยนัดชิง

     สำหรับ แตนอาละวาด คงต้องบอกว่าพวกเขาทำดีที่สุดแล้ว น่าเสียดายโอกาสในช่วงต้นเกมถ้าพวกเขาสามารถเปลี่ยนมันเป็นประตูได้สำเร็จรูปเกมน่าจะสนุกกว่านี้ แต่ก็คงต้องมองความจริงที่ว่าทีมพวกเขายังห่างชั้น แมนฯซิตี้ อยู่หลายขุม แค่คะแนนในลีกก็ห่างกันถึง 48 แต้มแล้ว อย่างน้อยแฟนๆวัตฟอร์ดที่มาเชียร์ที่สนามก็ยังโบกสะบัดธง และส่งเสียงเชียร์แม้ทีมโดนถล่มเละเทะ และพวกเขาก็ยังมีความทรงจำดีๆที่นี่หลังสามารถปราบทีมฟอร์มร้อนแรงอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-2 อย่างไรก็ตาม วัตฟอร์ด ก็จะโดนจารึกหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็นทีมที่สามที่โดนกระซวกไป 6 เม็ดในนัดชิงชนะเลิศ ต่อจาก เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ และดาร์บี้ เคาน์ตี้

5.ผีแดงและวูล์ฟแอบยิ้ม