ผลบอลออนไลน์ 24 ชม. อัพเดตตลอด วิเคราะห์บอลหลังเกม

แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เชลซี : ชำแหละ 5 ประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก

แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เชลซี : ชำแหละ 5 ประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก
arrow_drop_down

เป็นเกมที่บรรดาผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูจะมีความกระตือรือล้นมากกว่าเกมก่อนๆ

อย่างเห็นได้ชัดเมื่อพวกเขาออกสตาร์ทกันได้อย่างวูบวาบ มีการประสานงานที่ดีให้เห็นเช่นเดียวกับความพยายามทุ่มเทในการเคลื่อนที่

5. ความเป็นไปและรูปเกม

   เป็นเกมที่บรรดาผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูจะมีความกระตือรือล้นมากกว่าเกมก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัดเมื่อพวกเขาออกสตาร์ทกันได้อย่างวูบวาบ มีการประสานงานที่ดีให้เห็นเช่นเดียวกับความพยายามทุ่มเทในการเคลื่อนที่ ขณะที่ฝั่ง เชลซี ยังคงเล่นมิติเดิมโดยมี เอเด็น อาซาร์ ที่พอจะสร้างความวูบวาบในเกมรุกได้เพียงรายเดียว 

   ซึ่งการสอดประสานงานที่ดีในแดนหน้าของ ปีศาจแดง ระหว่าง โรเมลู ลูกากู, ลุค ชอว์ และ ฆวน มาต้า ก็ส่งผลให้พวกเขาได้ประตูขึ้นนำในที่สุดตั้งแต่ช่วงต้นเกม แต่ทว่าความผิดพลาดของ ดาบิด เด เคอา ก็ส่งผลให้พวกเขาเสียประตูในช่วงท้ายครึ่งแรก

   ส่วนรูปเกมในครึ่งหลังต่างฝ่ายต่างพยายามสร้างจังหวะในการเข้าทำอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนว่าสปีดเกมของ เร้ดเดวิลส์ จะดร็อปลง ขณะที่ อาซาร์ ก็ไม่สามารถแบกทีมไปให้ได้ไกลกว่านี้ได้

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4. ปัญหาเรื่องความมั่นใจล้วนๆ ของ ปีศาจแดง

   หลังจาก (หลาย) สัปดาห์แห่งเสียงก่นด่าจากแฟนบอลเมื่อทีมไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาเอาไว้ได้ โดยเฉพาะกับ ปอล ป็อกบา ที่ตกเป็นเป้าไล่ตั้งแต่การไม่แสดงความเป็นผู้นำในเกมรุกของทีม, มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จนไปถึงสถิติการวิ่งเฉลี่ยต่อเกมที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ฯลฯ

   แต่มาเกมนี้ ป็อกบา และพรรคพวกได้เล่นด้วยความกระตือรือล้น พวกเขาแสดงความมุ่งมั่นออกมาให้เห็นมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในครึ่งแรก (แม้ว่าครึ่งหลังจะดูดร็อปลงไปเล็กน้อยก็ตาม) เข้าใจว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา ยังสามารถเรียกสปิริตในห้องแต่งตัวของทีมกลับมาได้อยู่บ้างหลังจากมีข่าวว่าบรรยากาศในทีมไม่ค่อยสู้ดีนัก

   ทุกคนน่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ ยกเว้นนักเตะเพียงรายเดียวของพวกเขา ...

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3. เกิดอะไรขึ้นกับ เด เคอา

   พลาดท่าเป็นเหตุให้ทีมเสียประตูอีกครั้งจากการตัดสินใจที่ไม่เด็ดขาดของเจ้าตัวเมื่อพยายามตะปบบอลจากลูกยิงไกลเต็มเหนี่ยวของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ทั้งที่เจ้าตัวสามารถปัดให้พ้นอันตรายหรือทุบบอลออกไปไกลๆ ก็ยังได้ ก่อนที่บอลจะไปตกอยู่ตรงหน้าของเจ้าตัวและกลายเป็น มาร์กอส อลอนโซ ที่จมูกไวเข้าถึงบอลก่อน

   ดูท่า การดร็อปเจ้าตัวจากอาการฟอร์มฝืดแบบนี้และเปิดโอกาสให้ เซร์คิโอ โรเมโร ได้ลงมาโชว์ฟอร์มบ้างก็เป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลนะ โอเล่

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2. เกมรุกมิติเดียวของ สิงห์บลู

   เมื่อกองหน้าตัวเป้าไม่ทำงาน, ริมเส้นอีกฝั่งดูจะติดขัด และแดนกลางที่สอดประสานไม่ทันใจนัก (ยกเว้น ก็องเต้ ในบทบาทบ็อกซ์ทูบ็อกซ์) เกมรุกของ สิงห์บลู ก็ฝากทั้งตัวและหัวใจไว้ที่ เอเด็น อาซาร์ อีกเช่นเคยโดยดาวเตะชาว เบลเยียม กลายเป็นแข้งที่วูบวาบที่สุดของ สิงโตน้ำเงินคราม อีกครั้ง หากแต่เขาไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีนักจากเพื่อนร่วมทีมจนทำให้หลายจังหวะที่แม้จะเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลในสนามได้ก็มักจะจบที่การตันและไม่สามารถหาเพื่อนที่ว่างพอจะผ่านบอลต่อไปได้

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. อิกวาอิน ยังน่าผิดหวัง

   การล้ำหน้าทั้งหมด 5 ครั้งของ เชลซี เกิดขึ้นจาก กอนซาโล อิกวาอิน เพียงคนเดียวในเกมนี้ เจ้าตัวดูจะมีปัญหาในการยืนตำแหน่งอย่างเห็นได้ชัด และไม่สามารถเก็บบอลในแดนหน้าเพื่อพักบอลให้เพื่อนเล่นต่อได้เลย ถูกความแข็งแกร่งของแนวรับ ปีศาจแดง เก็บเสียอยู่หมัด ขณะที่สปีดความเร็วก็ไม่ได้จัดจ้านเหมือนแต่ก่อนกับอายุอานาม 31 กะรัตเข้าไปแล้ว

   ซึ่งเมื่อเทียบกับ โรเมลู ลูกากู ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็สามารถเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเมื่อหัวหอกชาว เบลเยียม สามารถใช้ความบึกบึนของตนเองฉีกออกไปเล่นงานฟูลแบ็คของ สิงห์บลู ได้อยู่บ่อยครั้ง แถมเจ้าตัวยังมีส่วนสำคัญกับเกมเมื่อเป็นคนตั้งต้นจังหวะที่ทำให้ทีมได้ประตู

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

SHARE ON