โซลชาพาเฮ5นัดติด อเล็กซิสจ่ายลูกากูซัดปิด แมนยูตบเร้ดดิ้ง2-0ลิ่วเอฟเอคัพ

    "ปีศาจแดง" รองแชมป์เก่า เปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับ เร้ดดิ้ง รองบ๊วย แชมเปี้ยนชิพ โดย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปรับทัพยกชุด ให้ โรเมลู ลูกากู และ อเล็กซิส ซานเชซ ได้เป็นตัวจริงครั้งแรกในยุคของตัวเอง ขณะที่ขุมกำลังเสริมอย่าง เซร์คิโอ โรเมโร่, ดีโอโก้ ดาโล่ต์, มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, แอชลี่ย์ ยัง, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, อันเดรียส เปเรยร่า, เฟร็ด และ ฆวน มาต้า ต่างได้รับโอกาส ด้าน "เดอะ รอยัลส์" จัด ดาเนียล โลเดอร์ หอกวัย 18 ปีนำเกมรุก

    10 นาทีแรกแทบไม่มีโอกาสได้ลุ้น ต้องรอจนถึงนาทีที่ 16 เป็นเจ้าถิ่นได้ลุ้น จากจังหวะเล่นชิ่งกันขึ้นมาตรงกลาง อเล็กซิส ได้บอลหน้าเขตโทษส่องด้วยขวา แต่บอลข้ามคานหวุดหวิด
 
    ผ่านมาถึงนาทีที่ 20 เกิดจังหวะปัญหาขึ้นเล็กน้อยๆ เมื่อ มาต้า จ่ายให้ เฟร็ด สอดไปยิงด้วยขวาทางซ้ายตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนตีธงล้ำหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อดูวีเออาร์แล้ว ผู้ตัดสินมองว่า มาต้า โดนทำฟาวล์ก่อนแล้วในจังหวะจ่ายบอล จึงเป่าให้เป็นจุดโทษ และ มาต้า อาสาสังหารด้วยซ้ายไปทางขวามือของตัวเองเข้าไปไม่เหลือซากส่ง "เร้ด เดวิลส์" นำ 1-0

    ถึงครึ่งชั่วโมง เจ้าถิ่นหวิดได้เพิ่ม เมื่อ เฟร็ด จ่ายบอลตามช่องให้ ลูกากู พาโต้กลับขึ้นไปตรงกลาง จังหวะแรกบอลพันขา แต่ยังแต่งมาเข้าซ้าย ซัดในเขตโทษ น่าเสียดายที่ติดเซฟ ก่อนที่ทีมเยือนจะโต้กลับในจังหวะต่อเนื่อง คัลลั่ม แฮร์เรียตต์ ลากเข้าเขตโทษจะหาจังหวะยิง แต่โดน โรเมโร่ ปิดมุมเซฟไว้ได้เฉียบ

   ล่วงเลยมาถึงช่วงทดเจ็บแฟนผีได้เฮอีกคำรบ เมื่อ เร้ดดิ้ง ทำบอลเสีย ก่อนที่ อเล็กซิส จะไหลตัดหลังแนวรับให้ ลูกากู หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปทางซ้ายของเขตโทษ แตะหลบนายทวารเร้ดดิ้ง แล้วยิงนิ่มๆ เข้าไป จบครึ่งแรก ปีศาจแดง จึงนำอยู่ 2-0

    ครึ่งหลัง เร้ดดิ้ง ลุยแหลก น.54 แฮร์เรียตต์ ได้ตะบันเน้นๆ แบบไม่ล้ำหน้า แต่ทว่า โรเมโร่ ใช้ขาป้องกันไว้ได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นครบหนึ่งชั่วโมง โซลชา ปรับทัพโดยส่งดาวรุ่งอย่าง ทาฮิธ ชอง แทน มาต้า และ มารูอาน เฟลไลนี่ แทน เฟร็ด 

    ถัดมาอีกแค่สองนาที ผีแดงต้องเปลี่ยนอีกตัว เพราะ อเล็กซิส มีอาการบาดเจ็บ และส่งสัญญาณว่าเล่นไม่ไหว ทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กำลังเข้าฟอร์มได้ลงสนามแทน 
 
    อ. ยัง ลากขึ้นมาทางซ้ายก่อนใส่พานให้ เฟลไลนี่ ยิงเผาขนแต่เบาเกินไป ก่อนที่ทีมเยือนจะโต้ตอบ น.71 ตัวสำรองอย่าง โซเน่ อาลูโก้ หวดจากหน้ากรอบเขตโทษแฉลบ แต่ โรเมโร่ ยังพุ่งปัดทิ้งได้

    ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯ ยูไนเต็ด กุมสถานการณ์เอาไว้ได้หมด แถมหวิดได้เพิ่มนาทีท้าย แต่ลูกยิงของ เปไรร่า โดนเซฟ จบ 90 นาที "ปีศาจแดง" จึงเป็นฝ่ายบดเอาชนะไป 2-0 พร้อมทะยานเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ โดยนับเป็นการคว้าชัย 5 นัดรวดของกุนซือนอร์วีเจี้ยนด้วย
 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 แมนฯ ยูไนเต็ด : เซร์คิโอ โรเมโร่ - ดีโอโก้ ดาโล่ต์, มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, ฟิล โจนส์, แอชลี่ย์ ยัง - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, อันเดรียส เปเรยร่า, เฟร็ด (มารูยาน เฟลไลนี่ น.62) - ฆวน มาต้า (ทาฮิธ ชอง น.62), โรเมลู ลูกากู, อเล็กซิส ซานเชซ (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.64)

 สำรองไม่ได้ใช้ : ลี แกรนท์, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, เจมส์ การ์เนอร์

 เร้ดดิ้ง : อันส์ซี่ ยาคโคล่า - แอนดี้ เยียดอม, ติอาโก้ อิลอรี่ (โซเน่ อาลูโก้ น.45), เลียม มัวร์, โอมาร์ ริชาร์ดส์ - เลียม เคลลี่, แอนดรูว์ รีนอมโฮต้า - แกเร็ธ แม็คเคลียรี่ (โมดู บาร์โรว์ น.61), จอห์น สวิฟต์, คัลลั่ม แฮร์เรียตต์ (ยาคู ไมเต้ น.76) - ดาเนียล โลเดอร์

 สำรองไม่ได้ใช้ : แซม วอล์คเกอร์, จอห์น โอเช, ไรอัน อีสต์,  คริส กันเทอร์

 ใบเหลือง : เยียดอม

 ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์

สรุปผลเอฟเอคัพ รอบแรกคู่อื่น

เบิร์นลี่ย์ เสมอ บาร์นสลี่ย์ 0-0 (ต้องเตะนัดรีเพลย์)
เชฟฯ เว้นส์เดย์ เสมอ ลูตัน 0-0 (ต้องเตะนัดรีเพลย์)
ชรูว์สบิวรี่ เสมอ สโต๊ค 1-1 (ต้องเตะนัดรีเพลย์)
เวสต์บรอมวิช ชนะ วีแกน 1-0
บอร์นมัธ แพ้ ไบรท์ตัน 1-3
เวสต์บริมวิช ชนะ วีแกน 1-0
เวสต์แฮม ชนะ เบอร์มิงแฮม 2-0