ผลบอลออนไลน์ 24 ชม. อัพเดตตลอด สกู๊ปบอล

สำหรับเกมพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้มีเรื่องน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่งตั้ง

เห็นด้วยไหม ! 3 เหตุผลรองรับ ป็อกบา เป็นมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน
arrow_drop_down

เห็นด้วยไหม ! 3 เหตุผลรองรับ ป็อกบา เป็นมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน

สำหรับเกมพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้มีเรื่องน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามากุมบังเหียนแทน โชเซ่ มูรินโญ่ และพวกเขาพลิกฟอร์มจากย่ำแย่กลายเป็นยอดทีมอีกครั้ง พร้อมกับสถิติยังไม่แพ้ใครเลยนับตั้งแต่ที่ "น้าลูกอม" เข้ามากุมบังเหียน

     แน่นอนว่าความสามารถในการวางแท็กติคของ โซลชา มีส่วนทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นทีมเดิมที่สาวก "เร้ด อาร์มี่" ปรารถนา แต่หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้พวกเขาเล่นได้ดีแบบนี้ก็คือฟอร์มของ ปอล ป็อกบา เพราะนับตั้งแต่ที่ กุนซือชาวนอร์เวย์ เข้ามากุมบังเหียน เขากลายเป็นแข้งระดับเวิลด์คลาสอีกครั้ง

   ย้อนไปช่วงต้นฤดูกาลนี้ ป็อกบา ทำผลงานได้ย่ำแย่เนื่องจากมีปัญหากับ มูรินโญ่ และมักจะโดนดร็อปเนื่องจากศักยภาพของเขาไม่เหมาะกับแนวทางการสร้างทีมของ นายใหญ่ชาวโปรตุกีส แต่ในการทำงานร่วมกับ โซลชา ทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะ "น้าลูกอม" เลือกที่จะใช้ ป็อกบา เป็นแกนหลักของทีม และให้อิสระในการเล่นเกมรุกเต็มที่ นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ กลับมาฉายแสงความเป็นสุดยอดแข้งอีกครั้ง 

    ที่สำคัญฟอร์มการเล่นในเวลานี้ทำให้แฟนบอล "ผีแดง" ทั่วโลกยอมรับแล้วว่าค่าตัวที่ทีมทุ่มจ่ายถึง 89 ล้านปอนด์ (ราว 3,649 ล้านบาท) ถือว่าคุ้มค่าทุกเพนนีจริงๆ ฉะนั้นอาจจะไม่เป็นการเกินเลยหากจะยกย่องว่าตอนนี้ ป็อกบา คือมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก

1. ป็อกบา เล่นได้คงเส้นคงวา

    เป็นเรื่องที่ยุติธรรมมากๆ ที่จะบอกว่า ปอล ป็อกบา เป็นกองกลางที่เล่นได้คงเส้นคงวาที่สุดในโลกเวลานี้ โดยตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นนักเตะที่มีความสำคัญกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากแค่ไหนในเวลานี้

    ปัจจุบันมีกองกลางชั้นยอดในลีกยุโรปมากมาย แต่ไม่มีนักเตะคนไหนที่ทำผลงานได้อย่างสุดยอดในทุกๆ สัปดาห์เหมือนกับ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ที่กำลังแสดงให้เห็นอยู่ในตอนนี้ ป็อกบากลับชาติมาเกิดอีกครั้งนับตั้งแต่ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามากุมบังเหียน "ปีศาจแดง" และพัฒนาฝีเท้าแบบเขย่งก้าวกระโดด และนั่นเป็นเหตุผลที่ต้นสังกัดเลื่อนอันดับจากที่ 6 มาลุ้นท็อปโฟร์

    สำหรับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดาวเตะแชมป์โลก อยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่บ่อยครั้งมักจะมีคำถามออกมาตลอดเกี่ยวกับการเล่นที่คงเส้นคงวาของเขา กระนั้นตอนนี้เสียงวิจารณ์ต่างๆ ค่อยๆ เงียบหายไปแล้ว ตอนนี้ ป็อกบา เป็นนักเตะที่วิ่งตลอดทั้งเกม ไม่มีใครหยุดเขาได้เลย และตอนนี้ไม่มีกองกลางคนไหนที่จะมีความมั่นใจ เต็มไปด้วยชั้นเชิง และความคงเส้นคงวาทุกครั้งที่ลงสนาม

2. มีส่วนกับประตูมากกว่ามิดฟิลด์คนอื่นในยุโรป 

   บางครั้งก็อาจเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นธรรมในการตัดสินนักเตะตำแหน่งกองกลางด้วยการใช้สถิติการแอสซิสต์ และทำประตูมาวิเคราะห์ ยกตัวอย่าง ซีเนดีน ซีดาน, ชาบี เอร์นานเดซ และ อันเดรส อิเนียสต้า ทั้งหมดนี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในตำแหน่งมิดฟิลด์ แต่ก็มีหลายครั้งที่โดนวิจารณ์

    เพราะฉะนั้น ป็อกบา ควรได้รับเครดิตจากการเล่นที่ครบเครื่องของเขา อดีตสตาร์ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ไม่ใช่แค่คอยครองเกมให้กับทีมเท่านั้น เขายังเต็มไปด้วยศักยภาพในการเล่นทั่วสนาม  ตอนนี้ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ไม่ใช่แค่มิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดในท็อปไฟว์ลีกยุโรป แต่ยังเกี่ยวข้องกับหลายๆ ประตูที่ "ปีศาจแดง" ทำได้ด้วย
---
 ป็อกบา ยิงไปแล้ว 14 ประตูจากการเล่น 32 เกมในทุกรายการฤดูกาลนี้ แน่นอนตอนนี้ ป็อกบา ได้รับคำชื่นชมล้นหลามจากทั่วสารทิศสำหรับผลงานชั้นยอดของเขาในเวลานี้ และไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ชื่อเขาจะมาแรงแซงหน้ากองกลางคนอื่นๆ ในโลกลูกหนังปัจจุบัน 
 
3. มิดฟิลด์ที่ครบเครื่องที่สุดในโลก 

   สำหรับวงการลูกหนังในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก ดังนั้นมีตำแหน่งในการเล่นมากมายสำหรับนักฟุตบอล โดยในเวลานี้ค่อนข้างจะหายากมากที่จะหานักเตะที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงกองกลาง และโชว์ฟอร์มระดับเวิลด์คลาส

    ถ้าจะมีหนึ่งในนักฟุตบอลที่เล่นได้สุดยอดในทุกตำแหน่งแผงมิดฟิลด์ แน่นอนว่าต้องเป็น ป็อกบา ลองย้อนนึกไปถึงช่วงฟุตบอลโลก 2018 เขาได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเขาในเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ และทำผลงานได้อย่างสุดยอดมากๆ

    ขณะที่ในแมตช์ชนะ เชลซี เกมเอฟเอ คัพ ดาวเตะวัย 25 ปียังพิสูจน์ให้เห็นว่าทำไมเขาถึงเป็นมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องที่สุดในโลกจากฟอร์มการเล่นชั้นยอดของเขา ทั้งการสร้างสรรค์เกมให้ทีมได้ประตูแรกด้วยการเลี้ยงหลบ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ก่อนจะเปิดบอลให้ อันเดร์ เอร์เรร่า ทำประตู ขณะที่ประตูที่สองเจ้าตัววิ่งแซงแนวรับ "สิงห์บลูส์" ก่อนจะพุ่งโหม่งส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย 

    จังหวะที่ทำประตูที่สองนั้น หลายคนคงได้เห็นแล้วว่า ป็อกบา เก่งฉกาจขนาดไหนเพราะเขาสามารถเอาชนะลูกกลางอากาศทั้ง ดาวิด ลุยซ์ กับ  อันโตนิโอ รือดิเกอร์ สองเซนเตอร์แบ็กระดับชาติ แน่นอนว่านี่คือบทพิสูจน์ที่เพอร์เฟกต์ว่า ป็อกบา คือแข้งที่สมบูรณ์แบบและครบเครื่องจริงๆ ฉะนั้นในเวลานี้คงหาใครที่จะมาเทียบชั้นเขาได้ในตำแหน่งนี้

SHARE ON