ผลบอลออนไลน์ 24 ชม. อัพเดตตลอด วิเคราะห์บอลหลังเกม

เวสต์แฮม 1-1 ลิเวอร์พูล : เก็บตก 5 ประเด็นที่เราเรียนรู้หลังเกม

เวสต์แฮม 1-1 ลิเวอร์พูล : เก็บตก 5 ประเด็นที่เราเรียนรู้หลังเกม
arrow_drop_down

เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิงหาคม 2017 กับจังหวะจบสกอร์อย่างเยือกเย็นแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ทีมเก็บชัยชนะได้เมื่อเพื่อนร่วมทีมของเขาต่างนัดกันผิดฟอร์ม

ซาดิโอ มาเน ทำสถิติซัลโวประตูใน พรีเมียร์ลีก ติตต่อกัน 3 นัด (คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ ซิตี้ และ เวสต์แฮม)

5. มาเน ยังร้อนแรง

     ซาดิโอ มาเน ทำสถิติซัลโวประตูใน พรีเมียร์ลีก ติตต่อกัน 3 นัด (คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ ซิตี้ และ เวสต์แฮม) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิงหาคม 2017 กับจังหวะจบสกอร์อย่างเยือกเย็นแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ทีมเก็บชัยชนะได้เมื่อเพื่อนร่วมทีมของเขาต่างนัดกันผิดฟอร์ม


ซึ่งสถิติการทำประตูของดาวเตะทีมชาติ เซเนกัล ดูจะเป็นเรื่องดีเพียงอย่างเดียวในเกมนี้ของ ลิเวอร์พูล

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4. มิดฟิลด์เจ้าของค่าตัว 50 ล้านปอนด์?


จากอดีตที่เคยเป็นหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่งในศึก บุนเดสลีกา กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยความสามารถที่ครบเครื่องจนมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของลูกหนังเมืองเบียร์มาแล้วก่อนที่จะย้ายซบ หงส์แดง ด้วยมูลค่าราว 50 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา


แต่เกมนี้ราวกับว่า นาบี เกอิต้า ทิ้งร่างเดิมของเขาไว้ที่แผ่นดิน เยอรมนี


     บอลจากเท้าของ เกอิต้า แทบไม่สามารถหวังผลได้เลยแม้จะมีจังหวะเลี้ยงผ่านคู่แข่งมากที่สุดในสนาม (4 ครั้ง) ทว่าสามารถผ่านบอลให้เพื่อนได้สับไกเพียง 1 ครั้งเท่านั้น (มิลเนอร์ - 5 ครั้ง) และยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้นกับจังหวะถูก มิเคล อันโตนิโอ สลัดหลุดการประกบเข้าไปยิงประตูตีเสมอเสียอย่างนั้น

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3. อาการดื้อไม่ยอมเซ็นแนวรับเสริมทัพเริ่มส่งผล

     เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดทีมโดยใช้ เจมส์ มิลเนอร์ ในตำแหน่งแบ็คขวา ขณะที่ โจเอล มาติป จับคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นคู่เซ็นเตอร์แบ็คโดยมี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่แบ็คซ้ายหลังจากพวกเขาต้องพลาดการใช้งาน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ​ กับ เดยัน ลอฟเรน และนายใหญ่ชาว เยอรมัน ไม่ได้เซ็นสัญญาซื้อนักเตะในตำแหน่งกองหลังเสริมทัพ แถมยังกล้าๆ ปล่อย นาธาเนียล ไคลน์ ออกจากทีมชั่วคราวสู่ บอร์นมัธ


     สัญญาณที่กราบขวาเริ่มจะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน แม้ มิลเนอร์ จะยังคงความปอดเหล็ก วิ่งห้อไม่หมดแต่อย่าลืมว่า น้ามิล อายุปาเข้าไป 33 ปีแล้ว การต้องรับมือตัวจี๊ดทั้ง ฟิลิปเป้ แอนเดอร์สัน และ อารอน เครสส์เวลล์ดูจะหนักหนาเอาการ


     นอกจากนั้นพวกเขายังมีจังหวะพลาดปล่อยให้ ดีแคลน ไรซ์ หลุดเข้าไปโหม่งโล่งๆ โชคดีที่ไม่เสียประตู ทว่าการป้องกันลูกฟรีคิกอันเป็นที่มาของประตูตีเสมอนั้นเรียกว่าพวกเขาพลาดกันเองเต็มๆ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2. เมื่อ 3 ประสานแผลงฤทธิ์ไม่ออก

     นอกจากประตูซึ่งเกิดจากการให้ของขวัญของผู้กำกับเส้นเมื่อไม่ยกธงในจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ เหลื่อมไลน์แนวรับ เวสต์แฮม เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ดูจะตีบตันเมื่อเจอกับคู่แข่งที่แพ็คเกมรับอย่างแน่นหนาจนทั้ง 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ไม่อาจแผลงฤทธิ์ได้ออก


     เกมจากแบ็คทั้งสองข้างที่เคยดุดันก็แทบจะไม่สามารถกดดันคู่แข่งได้อย่างเคย ขณะที่แผงมิดฟิลด์ไร้ไอเดียในการเข้าทำ รูปแบบการโจมตีที่ขาดความพลิกแพลง ยิ่งเล่นยิ่งดูเหมือนจะกดดันตัวเอง ซ้ำตัวสำรองที่ส่งลงมาเปลี่ยนเกมไม่อาจทำได้อย่างที่หวังจึงทำให้พวกขาไม่อาจคว้า 3 คะแนนเต็มได้ในเกมนี้


     ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในการลุ้นแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ดูจะอันตรายทุกขุมกำลังยิ่งน่ากลัวว่า หงส์แดง จะรักษาโมเมนตัมในการเป็นจ่าฝูงได้ยาวนานสักแค่ไหน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. เรือใบ ยิ้มแฉ่งและจุดเปลี่ยนที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก 2 เกมข้างหน้า

     ผลจากการที่ช่องว่างบนตารางคะแนนเหลือเพียง 3 แต้มหลังจากแมตช์เดย์ที่ 25 ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งจะได้เล่นก่อนในเกมที่ 26 คืนวันพุธนี้มีโอกาสดีที่จะแซง หงส์แดง ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงจากประตูได้เสียที่ดีกว่า เร้ดแมชีน กับเกมที่พวกเขาจะออกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่ กูดิสัน พาร์ค ซึ่ง ท็อฟฟีสีน้ำเงิน กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเมื่อแพ้มาถึง 5 เกมจาก 8 นัดหลังสุดเมื่อรวมทุกรายการ และเก้าอี้ของ มาร์โก้ ซิลวา ผู้เป็นกุนซือกำลังร้อนฉ่า


      โดยหากไม่มีการพลิกล็อคในเกมกลางสัปดาห์นี้ ความกดดันจะถูกโยนให้กับ ลิเวอร์พูล ทันทีเมื่อพวกเขาเป็นฝ่ายเล่นทีหลัง ซิตี้ กับโปรแกรมเปิดบ้านรับ บอร์นมัธ ในคืนวันเสาร์


     เมื่อมองไปอีกขั้น เรือใบสีฟ้า จะลงทำศึกบิ๊กแมตช์ต่อเนื่องกับ เชลซี ในคืนวันจันทร์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะทำศึกแดงเดือดเป็นโปรแกรมถัดไป


     เรียกได้ว่า ทีมไหนพลาพลั้งในช่วงนี้มีสิทธิ์สูญเสียความมั่นใจในการลุ้นแชมป์ไปได้เลย

SHARE ON