ผลบอลออนไลน์ 24 ชม. อัพเดตตลอด ข่าวบอล

"เรือใบ" บุกไปเชือด "ชาลเก้ 04" 3-2 สังเวย โอตาเมนดี้

"เรือใบ" บุกไปเชือด "ชาลเก้ 04" 3-2 สังเวย โอตาเมนดี้
arrow_drop_down

แมนฯ ซิตี้ พลิกนำโดยบุกไปเชือด ชาลเก้ 3-2 และจบเกมด้วยสกอร์นี้

ซิตี้ มาสัมฤทธิ์ผลเอาในนาทีที่ 85 เมื่อพวกเขาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผล คราวนี้ เลรอย ซาเน รับหน้าที่สังหาร แบะเขาก็ทำได้ดีสุด ๆ เมื่อบอลติดไซด์เสียบเสาเข้าไป

ชาลเก้ 04 มาในระบบ 3-5-2 โดยมี มาร์ค อูธ ยืนหน้าเป้าคู่กับ ฮัมซา เมนดิล กองหน้าจำเป็น มี นาบิล เบ็นทาเล็บ ห้องเครื่องของทีมคุมเกมกลางสนาม ด้ายผู้มาเยือนจัดชุดลุยแหลก 3-4-3 นำโดย เซร์คิโอ อเกวโร, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ราฮีม สเตอร์ลิง ล่าตาข่าย

เริ่มกมมาทีมเยือนเป็นฝ่ายครองบอลกดดันเจ้าบ้านได้ก่อน แต่ความีวินับของแนวรับทำให้ ชาลเก้ ยังรอดตัวไปได้ นาทีที่ 7 ซิตี้ ได้โอกาสจัง ๆ ครั้งแรกจากจังหวะลูกฟรีคิกลูกสูตร ซิลบา โยนเข้าเขตโทษให้ อเกวโณ ไดโขกเหน่ง ๆ แต่ แฟห์รมันน์ ปัดออกไปได้

แมนฯ ซิตี้ ยังทำได้ดีกว่าต่อเนื่อง ในนาทีที่ 16  เดอ บรอยน์ ฉกบอลไปได้จากบริเวณกลางสนาม พาบอลลุยขึ้นหน้ามาเอง ก่อนได้ลองยิงไกล แต่ แฟห์รมันน์ รับสบาย หลังจากนั้นไม่นาน อเกวโร ได้สับไกในกรอบเขตโทษ แต่บอลแฉลบ เมนดิล ออกหลัง

นาทีที่ 18 ชาลเก้ มาเสียประตูจากความผิดพลาดของพวกเขาเอง ราล์ฟ แฟห์ร์มันน์ ออกบอลสั้นให้ ซาลิฟ ซาเน แต่กองหลังชาวเซเนกัล เหม่อไปหน่อยจนโดนฉกบอลไป ซิลบา ฉกบอลไปได้ จังหวะสุดท้ายตบเข้าดลางให้ อเกวโร แปบอลใส่ประตูโล่ง ๆ ไม่เหลือ

ชาลเก้ มาได้โอกาสยิงจัง ๆ ครังแรกเอาในนาทีที่ 25 เมื่อ มาร์ค อูธ ได้ทำบอลสวนกลับ ก่อนมีโอกาสปั่นโค้งจากนอกกรอบ แต่บอลหลุดเสาออกไป

ซิตี้ มาถึงคราวเครียดบ้าง เมื่อ ดาเนียล คาลิกูรี ยิงไกลไปโดนแขนของ โอตาเมนดี้ ในเขตโทษ แม้ทั้งทีมพยายามจะช่วยกันป้องว่าเขาพยายามเอี้ยวแขนหลบแล้ว แต่จากภาพช้านั้นชัดเจนมาก และทีมตัดสิน VAR ก็เห็นสมควรที่จะให้จุดโทษแก้ ชาลเก้ ซึ่ง เบ็นทาเล็บ ก็สังหารเข้าไปอย่างเฉียบขาด

ซิตี้ มาพลาดสียจุดโทษอย่างต่อเนื่อง เมื่อ แฟร์นันดินโญ ไปรั้ง ซาลิฟ ซาเน ล้มในเขตโทษ นาบิล เบ็นทาเล็บ สังหารไม่พลาดอีกครั้ง ชาลเก้ พลิกขึ้นนำ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

เริ่มครึ่งหลัง ซิตี้ ยังคงเป็นฝ่ายบุกหนักเช่นเคย เควิน เดอ บรอยน์ ได้โอกาสลองยิง แต่บอลก็ไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่นออกหลัง โอกาสของ อเกวโร กับ กุนโดกัน หลังจากนั้นก็ยังไม่ตรงกรอบ

นาทีที่ 68 ซิตี้ มาเสียเปรียบหนักกว่าเก่า เมื่อ โอตาเมนดี้ ไปเตะ เบ็นทาเล็บ แบบไม่จำเป็นจากจังหวะกำลังโดนพลิกหนี ผู้ตัดสินชาวสเปนชักใบเหลืองที่ 2 และใบแดงไล่ออกทันที เป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องส่ง แว็งซ็องต์ ก็อมปานี ลงมาในสนามแทน ดาบิด ซิลบา

ทีมเยือนพยายามอย่างหนักที่จะเอาประตูตีเสมอ เดอ บอรยน์ ได้โอกาสปั่นฟรีคิกระยะหวังผล บอลไปแฉลบกำแพงออกหลังแบบหวุดหวิด ส่วน แบร์นาร์โด้ ได้โอกาสพาอบอลไปยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่ข้ามคานออกไป

ความพยายามของ ซิตี้ มาสัมฤทธิ์ผลเอาในนาทีที่ 85 เมื่อพวกเขาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผล คราวนี้ เลรอย ซาเน รับหน้าที่สังหาร แบะเขาก็ทำได้ดีสุด ๆ เมื่อบอลติดไซด์เสียบเสาเข้าไป

ในนาทีสุดท้ายของเกม เจ้าบ้านแทบฝันสลาย เมื่อบอลสวนกลับยาวจาก เอแดร์ซอน สัมฤทธิ์ผล ราฮีม สเตอร์ลิง ได้บอลก่อน โอชิปก้า ก่อนหลุดเข้าไปยิงผ่าน แฟห์รมันน์ สบาย ๆ ซิตี้ พลิกนำ 3-2 และจบเกมด้วยสกอร์นี้

ชาลเก้ โอกาสยังมี แต่พวกเขาต้องยิง ซิตี้ ให้ได้ 2 ลูกขึ้นไป หรือไม่งั้นก็ต้องบุกเชือด 3-2 เป็นอย่างน้อยเพื่อต่อเวลาพิเศษ ซึ่งก็เป็นงานยากทั้งคู่ ในขณะที่ ซิตี้ ขอแค่เสมอหรือแพ้แค่ 0-1 กับ 1-2 ในบ้านตัวเองก็เพียงพอแล้วที่จะเข้ารอบ โดยเกมนัดต่อไปจะมีขึ้นในคืนวันพุธที่ 12 มีนาคมนี้

รายชื่อ 11 ตัวจริง

ชาลเก้
แฟห์รมันน์ - ซาลิฟ ซาเน, นาสตาสิช, บรูมา - โอชิปก้า, เบ็นทาเล็บ, เซร์ดาร์, แมคเคนนี, คาลิกูรี - อูธ, เมนดิล

ตัวสำรอง
นือเบล, รูดี้, มาตอนโด, เบิร์กสตัลเลอร์, สเคอชิบสกี้, ฮาริต, คูตูจู

แมนฯ ซิตี้
เอแดร์ซอน - วอล์กเกอร์, โอตาเมนดี้, ลาปอร์ต - แฟร์นันดินโญ, กุนโดกัน, เดอ บรอยน์, ซิลบา - แบร์นาร์โด้, สเตอร์ลิง, อเกวโร

ตัวสำรอง
มูริช, ดานิโล, ก็อมปานี, ซินเชนโก้, โฟเด้น, เลรอย ซาเน, มาห์เรซ

SHARE ON