เคล็ดไม่ลับCR7!อดีตโค้ชเผยเวลาซ้อมโรนัลโด้เป็นยังไงบ้าง

    ถ้าหากถามว่าใครคือนักเตะที่เก่งที่สุดของโลกในตอนนี้นั้น เชื่อว่าชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงคนใหม่ของ ยูเวนตุส คงโผล่มาเป็นลำดับแรกๆ ในหัวของหลายคน หลังจากที่เขาทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และประสบความสำเร็จอย่างมาก
    อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่า โรนัลโด้ เก่งได้แบบที่ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะที่จริงเขาต้องฝึกซ้อมอย่างหนักกว่าที่จะมาถึงจุดนี้ได้ และตอนนี้ โจวานนี่ เมารี หนึ่งในอดีตโค้ชฟิตเนสของเขาสมัยที่ดาวเตะชาวโปรตุกีสอยู่กับ เรอัล มาดริด ก็ได้เปิดเผยว่าปกติแล้ว โรนัลโด้ มักจะทำอะไรบ้างในการซ้อม รวมถึงมีเทคนิคการซ้อมยังไง ซึ่งมันถือว่าน่าสนใจดีเลยทีเดียว

    - ร่างกายที่แข็งแกร่ง
    "จากนักเตะที่เป็นเจ้าของรางวัล บัลลง ดอร์ 7 คนที่ผมเคยร่วมงานด้วย หรือจะนับรวมเป็น 8 ก็ได้ถ้าหากคุณนับรวม (เปาโล) มัลดินี่ ที่ควรได้รางวัลสักครั้ง คริสเตียโน่ ก็ถือเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด ความเร็วของเขามันน่าทึ่งมาก เขาสามารถวิ่งจาก 0 กิโลดมตรต่อชั่วโมง ไปเป็น 34 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเลย"

  - เข้าใจร่างกายของตัวเอง
    "คริสเตียโน่ มีคุณสมบัติของการเป็นแชมเปี้ยนทั้งทางร่างกายและจิตใจ เขาจะตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเมื่อร่างกายของเขาส่งสัญญาณบางอย่างให้เขารู้ เขาเข้าใจดีว่าร่างกายของเขากำลังบอกอะไรกับเขา เขาเป็นนักกีฬาที่รู้สภาพของตัวเองทุกซอกทุกมุม มันเหมือนกับว่าเขาเป็นโค้ชให้ตัวเองด้วยซ้ำ"

    "มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมจำได้ว่าเขาหันมาหาผมแล้วบอกว่า -โค้ช สภาพตอนนี้มันก็เหมือนการรดน้ำมากเกินไปที่สุดท้ายจะทำให้ต้นหญ้าตายเลยนะครับ- ตอนนั้นเขารู้สึกว่าการซ้อมที่เขาต้องทำมันหนักเกินไป และการใช้กำลังมากเกินไปมันก็ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายของเขา ซึ่งการรู้จักตัวเองที่ดีแบบนั้นนี่ถือเป็นคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของนักฟุตบอลเลย มัลดินี่ เองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน"

    - ทัศนคติที่ดี
    "คริสเตียโน่ เป็นคนที่สุดยอด เขาเป็นนักกีฬาในระดับสูงสุด หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาซ้อมได้ดีอยู่เสมอก็คือการที่หลักการทำงานของเขามันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 อย่าง นั้นคือความมุ่งมั่น, ความจริงจัง และการมีอารมณ์ขันที่ดี"

    "การที่จะพัฒนาเกมการเล่นของนักเตะดาวรุ่งให้ดีนั้น มันก็นับเป็นไอเดียที่ดีเลยถ้าเกิดจะเอานักเตะดาวรุ่งเหล่านั้นมานั่งดูเขาซ้อมด้วย เพราะเขาซ้อมโดยที่มีสีหน้ายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา และไม่เคยเมินคนอื่นๆ เลย ถ้าเกิดเป็นนักเตะระดับอื่นๆ อาจจะทำตรงกันข้ามกับเขาไปแล้ว"

 "เรากำลังพูดถึงนักเตะเพียงคนเดียวในโลกที่พอถึงตอนตี 2 หลังจากจบเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วก็ยังไม่ยอมขับรถกลับบ้าน แต่เลือกที่จะอยู่ที่ศูนย์ฝึกซ้อมต่อเพื่อทำการบำบัดสภาพร่างกายหลังจบเกมการแข่งขัน รวมถึงทำการบำบัดด้วยน้ำเย็น นอกจากจะมีไสฟ์สไตล์ที่รักษาสุขภาพของตัวเองอย่างดีแล้วนั้น เขายังทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อทำให้มั่นใจว่าร่างกายของเขาจะฟื้นตัวได้ดีหลังจบเกมแต่ละนัดด้วย"