แมนฯซิตี้ ไม่พลาดกับสามแต้มสำคัญหลังบุกมาคว้าชัยเหนือเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน 2-0 เอมเมอริค

แมนฯซิตี้ ไม่พลาดกับสามแต้มสำคัญหลังบุกมาคว้าชัยเหนือเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน 2-0 เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ และกาเบรียล เชซุส ซัดคนละเม็ดพาทีมซิวชัยพร้อมแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงด้วยการมี 62 คะแนนเท่ากัน แต่ลูกได้เสียเรือใบดีกว่า แม้จะแข่งมากกว่าหนึ่งเกมก็ตาม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : กูดิสัน พาร์ค ,ลิเวอร์พูล

    "ทอฟฟี่" ฟอร์มล่าสุดเพิ่งจะเปิดบ้านพ่ายให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-3 แถม 5 เกมในบ้านล่าสุดพวกเขาพ่ายไปถึง 3 เกม แมตช์นี้ มาร์โก ซิลวา ที่เก้าอี้หนาวๆ ร้อนๆ ปรับเปลี่ยนแข้งจากเกมที่พ่ายบางตำแหน่งแนวรุกวาง  โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน เป็นหน้าเป้าโดยมีตัวปั้นเกมอย่าง ธีโอ วัลค็อตต์, ทอม เดวิส, อันเดร โกเมส และเบอร์นาร์ด อยู่ข้างหลัง 

    ทางด้าน "เรือใบสีฟ้า" ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับมาเล่นด้วยความคึกคักอีกครั้ง หลังแมตช์ล่าสุดไล่ถล่ม อาร์เซน่อล 3-1 แถม เซร์คิโอ อเกวโร่ กลับมาฮอตด้วยการซัดแฮตทริกอีกด้วย โดยวันนี้หากคว้าสามแต้มได้จะรั้งจ่าฝูงทันที ด้วยการมีแต้มเท่ากันแต่ลูกได้เสียดีกว่า ซึ่งการจัดทัพส่งสามแนวรุกเป็น เป็น แบร์นาโด้ ซิลวา, ลีรอย ซาเน่ และ "กุน" อเกวโร่ ส่วนแดนกลาง ดาบิด ซิลบา ขับเคลื่อนเกมร่วมกับ แฟร์นันดินโญ่ 

    เกมออกสตาร์ทมาได้แค่ 3 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบชิงขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็ว แนวรับเจ้าถิ่นสกัดลูกคอนเนอร์มาเข้าทาง ลีรอย ซาเน่ วิ่งมาหวดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลติดไซด์พุ่งถากเสาสองออกไป

นาที 15 อีกครั้งที่เกมรุก "เรือใบ" เล่นงานเจ้าถิ่น กุนโดกัน แทงบอลให้ ซาเน่ ที่ยืนโล่งทางซ้ายก่อนหักมาเสาแรกให้ กุนโดกัน ซัดเสาแรกแต่ดีที่ คูทร์ ซูม่า ตามมาบล็อกออกเป็นเตะมุม 

    และถัดมาจากลูกคอนเนอร์ กุนโดกัน เปิดบอลยาวมาเสาสอง เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ขึ้นสูงกว่าโขกเหน่งๆบอลเฉี่ยวเสาอออกไป

    เกมรุกของทีมเยือนรัวมาเป็นชุด นาที 19 พลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง บอลเจาะทางด้านขวาของเจ้าถิ่น ซาเน่ แทงทะลุให้ ซิลบา ถึงเส้นหลังแล้วปาดเลียดมาในกรอบ 6 หลา กุนโดกัน ถึงบอลซัดไปชนคาน แบร์นาโด้ เก็บบอลแถวสองเลี้ยงหักเข้ากลางก่อนซัดไปติดบล็อกแบบได้ลุ้น

    นาที 29 นานๆที เป็นโอกาสทองของเจ้าถิ่นที่จะชิงขึ้นนำบ้าง วัลค็อตต์ ได้บอลทางขวาตักมาเสาแรกให้ เบอร์นาร์ด โฉบมาโขกแฉลบหลัง ไคล์ วอล์คเกอร์ บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

ลาป๊อร์กต์ ขึ้นโขกส่งบอลเสียบมุมบนซ้าย หมดสิทธิ์ที่ พิคฟอร์ด จะป้องกัน

    จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1

     ครึ่งหลัง เกมเล่นกันเดือดเลย หลัง เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ โถมเข้ามาชน ธีโอ วัลค็อตต์ อย่างจังทำให้อดีตแข้งอาร์เซน่อลถึงกับจุกลุกไม่ไหว ทำให้เกมต้องหยุดไปนาน ก่อนที่วัลค็อตต์จะกลับมาวิ่งได้ปกติ

    นาที 58 กุนโดกัน ครอสบอลมาเสาแรก พิคฟอร์ด ทุบบอลไม่พ้อนทางปืน "กุน" อเกวโร่ ขึ้นจักรยานอากาศฟาดใส่ บอลถากเสาแรกไปแบบได้เสียว

 นาที 59 เป๊ป แก้เกมด้วยการถอดคนแรกเอา ลีรอย ซาเน่ ออกแล้วส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ลงเล่นแทน อีก 5 นาทีต่อมา "ทอฟฟี่" ส่งเอา ซิกูร์ดส์สัน ลงมาปั้นเกมแทน อังเดร โกเมส 

    แฟนเจ้าถิ่นใจหายใจคว่ำ นาที 68 สเตอร์ลิง ได้บอลในกรอบก่อนยึกยักๆ หวดบอลไปติดบล็อก จอนโจ เคนนี่ ข้ามคานออกไป ถัดมาไม่ถึงนาที ซิลบา ได้ยิงโล่งๆแต่ง้างเท้าช้าไปเจอบล็อกตามไว้ได้ทัน

    "ทอฟฟี่" ทิ้งไม้ตายสุดท้าย นาที 73 และนาที 79 ส่ง ริชาร์ลิซอน และเซงค์ โทซุง ลงมาป่วนเกมรับทีมเยือนแทนที่ เบอร์นาร์ด และธีโอ วัลค็อตต์ ขณะที่ "เรือใบ" ส่ง กาเบรียล เชซุส ลงแทน "กุน" อเกวโร่ ทำให้ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์สถิติเพิ่มเป็น 8 เกมล่าสุดแล้วที่ยิงเอฟเวอร์ตันไม่ได้

    ช่วงเวลาที่เหลือ ลูกทีมของ "เป๊ป" ยังเก็บบอลได้ดีกว่า แม้จะไม่มีโอกาสจะๆได้ส่องแต่ก็เพียงพอกับประตูที่ขึ้นนำ จบเกม เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านพ่ายให้ แมนฯซิตี้ 0-1 

 ช่วงทดเจ็บ นาที 90+6 ทีมเยือนมาได้ประตูที่สองเพิ่ม กาเบรียล เชซุส ยิงไปติดพิคฟอร์ดก่อนตามเข้าไปโขกบอลย้อยเข้าประตูไป จบเกม เอฟเวอร์ตัน พ่ายคาบ้านให้ แมนฯซิตี้ 0-2

    ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 62 คะแนนเท่ากับ ลิเวอร์พูล แต่แซงขึ้นนำจ่าฝูง หลังมีลูกได้เสียที่ดีกว่า แม้ว่าจะแข่งมากกว่าหนึ่งเกมก็ตาม ขณะที่ "ทอฟฟี่" พ่ายเป็นนัดที่ 11 ของฤดูกาล รั้งอันดับ 9 เหมือนเดิม

    รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

        เอฟเวอร์ตัน (4-1-4-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - จอนโจ เคนนี่, ไมเคิ่ล คีน, คูทร์ ซูม่า, ลูก้าส์ ดีญ - อิดริสซ่า กานา เกย์ - ธีโอ วัลค็อตต์ (เซงค์ โทซุง น.79), ทอม เดวิส, อันเดร โกเมส (กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน น.63), เบอร์นาร์ด (ริชาร์ลิซอน น.73) - โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน
 
        ผู้จัดการทีม : มาร์โก ซิลวา

        แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ - อิลคาย กุนโดกัน, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา (เควิน เดอ บรอยน์ น.89)  - แบร์นาโด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่ (กาเบรียล เชซุส น.80), ลีรอย ซาเน่ (ราฮีม สเตอร์ลิง น.59)

        ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า