สาวก "เดอะ ค็อป" กลับมายิ้มออกอีกครั้ง หลัง ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ พิชิต บอร์นมัธ 3-0
เก็บชัยได้ตามเป้า!6ข้อเน้นๆหลังลิเวอร์พูลอัดบอร์นมัธ
- ได้สามแต้มที่ต้องการ
หลังจากที่เสมอ 1-1 กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาติดๆ กัน แน่นอนว่า มันสำคัญมากๆ ที่ ลิเวอร์พูล ต้องกลับมาคว้าชัยชนะให้ได้ในเกมนี้ และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ เพราะนอกจากแซง แมนฯ ซิตี้ กลับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงได้แล้ว ยังเป็นชัยชนะที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ไม่น้อยด้วย ต่อให้ "เรือใบสีฟ้า" มีลุ้นแซงคืน หากเอาชนะ เชลซี ในเกมวันอาทิตย์นี้ได้ก็ตาม
- เกมรุกกลับมามีชีวิตชีวา
เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ดูตื้อๆ ไปในช่วงหลัง แต่เกมนี้พวกเขากลับมาเล่นได้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง เกมดูไหลลื่น โดยเฉพาะสามประสานในแดนหน้าอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ซึ่งคนที่ต้องชื่นชมเป็นพิเศษคือ มาเน่ ที่ตอนนี้ยิงมา 4 เกมติดแล้ว แถม 3 นัดหลังสุดเป็นคนยิงประตูแรกของเกมด้วย
- แอบเสียดาย
อย่างที่บอกไปคือ เกมรุกดูดีขึ้นแถมดูมีชีวิตชีวา แต่ที่แอบเสียดายนิดๆ คือ เกมนี้ ลิเวอร์พูล น่าจะชนะมากกว่า 3-0 ด้วยซ้ำ หากไม่ยิงทิ้งยิงขว้างกันเอง เรื่องนี้แม้ดูไม่ใช่สิ่งที่สำคัญมาก แต่มันก็สำคัญไม่น้อย เพราะการเบียดลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้น ไม่ใช่แค่แข่งเรื่องทำคะแนนเท่านั้น แต่ต้องยิงแข่งกันด้วย เพราะใครจะไปรู้ล่ะว่า การตัดสินแชมป์อาจจะวัดกันที่เรื่องทำประตูก็ได้
- สิ่งที่ต้องการเห็นจาก เกอิต้า
ที่ผ่านๆ มา นาบี เกอิต้า มิดฟิลด์ชาวกินี ฟอร์มยังไม่เป็นที่น่าพอใจนับตั้งแต่ย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก แต่เกมนี้เจ้าตัวคือหนึ่งในผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุด เพราะนอกจากผ่านบอลได้ยอดเยี่ยมในหลายๆ จังหวะ แถมจ่ายบอลเข้าเป้าถึง 91% แล้ว เกมนี้ เกอิต้า ยังมีสถิติแย่งบอลกลับมาครองได้ถึง 10 ครั้งด้วย
- ขี้แตกพา (ไวจ์นัลดุม) ฟอร์มกระฉูด
จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์ชาวดัตช์ โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมากๆ ในเกมนี้ แถมทำได้หนึ่งประตูด้วยลูกยิงที่เหนือชั้นด้วย ทั้งที่ความจริงเกมนี้เจ้าตัวเกือบไม่ได้ลงเล่นด้วยซ้ำ เพราะมีอาการท้องร่วง แถมอาเจียนมาติดๆ สองวัน ต้องบอกเลยว่า ไวจ์นัลดุม เล่นดีไม่เกรงใจสำไส้ตัวเองเลยทีเดียว จน คล็อปป์ ตัดสินใจถอดเจ้าตัวไปนั่งพักช่วงครึ่งหลัง
- ก็แค่ บอร์นมัธ!!!
แม้ได้ชัยชนะที่สวยหรู แต่ ลิเวอร์พูล ก็ต้องเตือนสติตัวเองด้วยว่า คู่แข่งในเกมนี้ก็แค่ บอร์นมัธ เท่านั้น ซึ่งเป็นทีมที่ห่วยแตกอยู่แล้วยามเตะเกมเยือน ดังนั้น คล็อปป์ ต้องกำชับลูกทีมให้ดี เพราะสองเกมต่อไปคืองานช้าง เพราะจะต้องลงเตะเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิค ที่ แอนฟิลด์ วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ และ 5 วันให้หลังมีคิวลงทำศึก "แดงเดือด" กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยสุดสัปดาห์หน้าจะได้พัก เพราะเป็นเรื่องของถ้วย เอฟเอ คัพ
