ผลบอลออนไลน์ 24 ชม. อัพเดตตลอด ข่าวบอล

หนึ่งทศวรรษเบอร์ 7 อาถรรพ์เสื้อตำนานแมนฯ ยูไนเต็ด

หนึ่งทศวรรษเบอร์ 7 อาถรรพ์เสื้อตำนานแมนฯ ยูไนเต็ด
arrow_drop_down

เบอร์ 7 เป็นหมายเลขตำนานสำหรับนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะอดีตผู้เล่นที่เคยสวมใส่เสื้อเบอร์นี้ประสบความสำเร็จกับทัพ "ปีศาจแดง" มากมายมหาศาล

แต่ในช่วงหลังๆ ดูเหมือนสิ่งนี้จะไม่เคยเกิดขึ้นเลยนับตั้งแต่ที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โบกมือลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2009

    สำหรับเครื่องหมายแห่ง "ความสมบูรณ์" (ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์) ใน "โรงละครแห่งความฝัน" มีความทรงจำมากมายเพราะอดีตนักเตะอย่าง จอร์จ เบสต์, ไบรอัน ร็อบสัน, เดวิด เบ็คแฮม และ เอริค คันโตน่า ซึ่งสวมเสื้อหมายเลข 7 ประสบความสำเร็จจนได้ชื่อว่าเป็น "ตำนาน" สโมสร

    จนกระทั่งเสื้อเบอร์นี้ถูกส่งต่อมายัง โรนัลโด้ และแน่นอนว่า สตาร์ลูกหนังทีมชาติโปรตุเกส ไม่ทำให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" ต้องผิดหวัง เมื่อผลิตผลงานดีมีคุณภาพสมัยที่สวมชุดอสูรแดงเพลิงด้วยการซัด 84 ประตูจากการเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 196 แมตช์ในช่วงระยะเวลา 6 ปี (2003–2009) ที่อยู่กับแมนฯ ยูฯ

    อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ที่ โรนัลโด้ ซึ่งคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 5 สมัย และ บัลลงดอร์ 5 สมัย ตัดสินใจโบกมือลาทีมไป หลังจากนั้นผ่านมา 10 ปียังไม่มีผู้เล่นคนใดเลยที่ค้าแข้งกับ "ปีศาจแดง" ประสบความสำเร็จกับการสวมเสื้อเบอร์ 7 ของสโมสร

    ไมเคิ่ล โอเว่น, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, อังเคล ดิ มาเรีย, เมมฟิส เดอปาย และปัจจุบันเป็นของ "ชายเล็ก" อเล็กซิส ซานเชซ รายชื่อผู้เล่นที่เอ่ยมานี้ไม่สามารถผลิตผลงานชั้นยอดให้สมกับได้ครอบครองเสื้อเบอร์ตำนานของ "เร้ด เดวิลส์" เลยซักคน

    ย้อนไปตอนที่ โรนัลโด้ เก็บเสื้อผ้าออกไปแตะขอบฟ้ากับ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด นั้น แมนฯ ยูฯ หาคนมาสวมเบอร์สำคัญได้ทันทีนั่นก็คือ โอเว่น ซึ่งเป็นอดีตหัวหอกลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แต่สิ่งที่ได้รับก็คือผลงานที่ช่างย่ำแย่เมื่อยิงได้แค่ 5 ประตูในช่วงระหว่างปี 2009 และจากนั้นก็อำลาทีมในปี 2011โดยเล่นในเกมลีกให้กับทีมเพียง 31 เกมเท่านั้น

    หลังจากนั้นทีมเลือก วาเลนเซีย ซึ่งย้ายมาจากวีแกน แอธเลติก ในฐานะปีกขวาแทน โรนัลโด้ เมื่อปี 2009 มาสานต่อเสื้อเบอร์ 7 ในซีซั่น  2012-13 แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรื่อง และถูกจับไปใส่เบอร์ 25 หลังจากนั้น โดยตอนที่สวมเสื้อตำนาน ดาวเตะเอกวาดอร์ ยิงได้แค่ 1 ประตูจาก 30 แมตช์

    อย่างไรก็ตามยังมีนักเตะที่แย่กว่า โอเว่น และ วาเลนเซีย อีก นั่นก็คือ ดิ มาเรีย ซึ่งได้รับได้รับเกียรติสวมเสื้อตำนาน 1 ปีหลังจากนั้นเมื่อย้ายมาร่วมทัพด้วยสนนราคา 59.7 ล้านปอนด์ (ราว 2,447 ล้านบาท) ผ่านพ้นจากสตาร์ลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ ก็มาสู่ยุคมืดอีกครั้งนั่นก็คือ เดอปาย ที่ยิงได้แค่ 2 ประตูจากการเล่น 29 เกมช่วงระหว่างซีซั่น 2015-16 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ โอลิมปิก ลียง

    หลังจากนั้นมรดกเลือดก็ตกมาสู่มือของ ซานเชซ หัวหอกจอมพลิ้วนิ้วขยี้เปียโน ที่ยังคงรักษาอาถรรพ์ของเสื้อเบอร์ 7 ได้ดีไม่มีบิดพลิ้ว เพราะเจ้าตัวซัดไป 3 ประตูจากจำนวนระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ทำมาหารับประทานอยู่กับยอดสโมสรแห่งดินแดนอร์ทเวสต์

    ตอนที่ ดาวเตะชิลี  ซึ่งสื่อระบุว่าได้ค่าเหนื่อย 500,000 ปอนด์ (ราว 20.5 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ ย้ายจาก อาร์เซน่อล มาเล่นที่ "เธียเตอร์ ออฟ ดรีม" เขามาพร้อมกับความคาดหวังมหาศาล แต่ตอนนี้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด หมดความคาดหวังในตัวนักเตะรายนี้ไปแล้ว และสิ่งที่คาดหวังในปัจจุบันก็คือเห็น ซานเชซ ย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

    ฉะนั้นหาก ซานเชซ ซึ่งเคยเล่นให้ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ตัดสินใจย้ายทีม งานนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงต้องหาผู้เล่นที่เหมาะสมมาสวมเสื้อหมายเลข 7 แต่นักเตะคนนั้นจะเหมาะสมพร้อมที่จะสานต่อความสำเร็จที่ตำนานทำได้หรือไม่ หรือจะเหมือนกับบรรดาแข้งช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า !!??

 

    10 ปีกับความล้มเหลวของนักเตะเบอร์ 7
ไมเคิ่ล โอเว่น     5 ประตู
อันโตนิโอ วาเลนเซีย    1 ประตู
อังเคล ดิ มาเรีย    2 ประตู
เมมฟิส เดอปาย    4 ประตู
อเล็กซิส ซานเชซ    3 ประตู

 

SHARE ON