สเปอร์ 3-0 ดอร์ทมุนด์ : 5 ประเด็นร้อนหลังเกม

5. ซานโช มีของ

 
ปรากฏการณ์ ซานโช ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเด็กหนุ่มวัย 18 ปีสามารถแผลงฤทธิ์ใส่เจ้าบ้านได้เป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะ ยาน แฟร์ตองเก้น ที่รับหน้าที่วิงแบ็คของ สเปอร์ส ต้องหัวหมุนสุด ๆ ในเกมนี้ 

ในช่วงต้นเกม เจ้าตัวมีโอกาสได้เลี้ยงทะลวงผ่านแนวรับของ สเปอร์ส อย่าง ยาน แฟร์ตองเก้น และ โทบี้ อัลเดอร์เวเรลด์ อย่างสบาย ๆ มาแล้ว ซึ่งเขาก็เก็บสถิติเลี้ยงผ่านคู่แข่งมากที่สุดของฝั่ง ดอร์ทมุนด์ ที่ 3 ครั้ง และเป็รองแค่แมนออฟเดอะแมตช์อย่าง แฟร์ตองเก้น เท่านั้นในเกมนี้

น่าเสียดายที่การต่อบอลของ ดอร์ทมุนด์ นั้นช็อตไปดื้อ ๆ ในครึ่งหลัง และทำให้ ซานโช แทบจะเปล่าเปลี่ยวในแดนของ สเปอร์ส จนกระทั่งเขาถูกเปลี่ยนตัวออกในที่สุด

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4. ซน ยิงต่อเนื่อง

นับตั้งแต่กลับมาจากการรับใช้ทีมชาติในศึก เอเชียนคัพ ซน เฮือง-มิน กลายมาเป็นดาวยิงขาประจำของ สเปอร์ส ไปแล้ว เมื่อประตูในเกมนี้เป็นนัดที่ 4 ที่เขาทำได้ในทุกรายการติดต่อกัน ไล่ตั้งแต่เกมลีกกับ วัตฟอร์ด, นิวคาสเซิล และ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ซน ยังยิง ดอร์ทมุนด์ เป็นประตูที่ 9 เข้าไปแล้ว และเป็นการยิง ดอร์ทมุนด์ ให้กับทุกทีมที่เขาลงเล่น ไล่ตั้งแต่ ฮัมบวร์ก, เลเวอร์คูเซน และ สเปอร์ส เป็นทีมล่าสุด

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3. พูลิซิค จะไหวไหม

ไม่ปฏิเสธว่า คริสเตียน พูลิซิค นั้นมีความจัดจ้านอยู่เต็มตัว การเสียตำแหน่งให้ เจดอน ซานโช ทำให้บางทีเราอาจลืมไปว่าจริง ๆ เขายังมีอายุแค่ 20 ปีเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวยังพัฒนาได้อีกเยอะ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาส่วนตัวของเขาเด่นชัดในเกมนี้ นั่นก็คือเขาไม่ได้มีความสามารถในการเบียดปะทะกับผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่งและรวดเร็วไปพร้อมกันได้ อย่างในเกมนี้ที่เขาพยายามจะเลี้ยงทะลวงคู่แข่งถึง 6 ครั้ง แต่กลับทำสำเร็จเพียง 2 ครั้งเท่านั้น และคู่ต่อสู้ของเขาก็คือ ดาบินซอน ซานเชซ และ ซิสโซโก้ ที่เก็บกินเขาได้หมด

หลังจากที่ไปร่วมทัพ เชลซี ในฤดูกาลหน้า พูลิซิค ยังมีงานต้องทำอีกเยอะเพื่อปรับตัวกับลีกใหม่ ซึ่งได้ชื่อ่ากองหลังนั้นโหดหินสุด ๆ และพวกเขาก็เข้าปะทะอย่างรวดเร็วไปพร้อม ๆ กัน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2. VAR ที่ไม่ถูกใช้

ในรอบ 16 ทีมของ แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้มีการนำ VAR มาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งในขณะที่อีกคู่หนึ่งอย่าง อาหยักซ์ กับ เรอัล มาดริด ได้ใช้ไปตั้งแต่ครึ่งแรก แต่เกมระหว่าง สเปอร์ส กับ ดอร์ทมุนด์ นั่นเงียบเหงาไปเลยทีเดียว แม้จะมีจังหวะน่ากังขาอยู่ 2-3 ครั้งก็ตาม

หากใครที่ดูถ่ายทอดสดผ่าน GOAL จะได้ยินผู้บรรยายภาษาอังกฤษบ่นอยู่ประปรายว่า ทีม VAR ไม่ยอมส่งสัญญาณมาให้ผู้ตัดสิน ยามที่ผู้ตัดสินเหมือนจะตัดสินผิดพลาดในจังหวะ 50-50 ซึงตามปกติแล้วผู้ตัดสินที่ 1 จะสามารถเรียกดูได้ เช่นในจังหวะกึ่งล้ำหน้าในครึ่งแรกของ เอริคเซน, จังหวะที่อาจจะเป็นแฮนด์บอลของ เดลานีย์ ในเขตโทษ หรือการสะดุดขากันเล็กน้อยระหว่าง ซานโช กับ ซิสโซโก้ ที่อาจส่งผลถึงรูปเกมได้เลย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. ใครจะกู้หน้าให้ ดอร์ทมุนด์ ได้

จ่าฝูง บุนเดสลีก้า ต้องการ 3 ประตูเป็นอย่างน้อยเพื่อลุ้นเข้ารอบต่อไป และแม้ว่าจะได้เล่นในบ้านที่ ซิกนัล อิดูนา พาร์ค แต่การขาดแคลนคนทำประตูขาประจำทำให้พวกเขาอาจต้องทบทวนตัวเลือกที่มีในเดือนมีนาคมที่จะถึง

มาร์โก้ รอยส์ กับ ปาโก้ อัลกาเซร์ คือ 2 ดาวซัลโวของทีมที่ดันมาเจ็บในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งตามคาดการณ์ของเว็บ transfermarkt แล้ว ทั้งคู่ไม่น่ามีปัญหาที่จะกลับมาลงเล่นในเกมนัดหน้า นอกจากนี้พวกเขาน่าจะได้ ยูเลียน ไวเกิล กับ ลูคัช ปิชเช็ค ที่ดันป่วยเหมือนกันอีกกลับมาช่วยเกมรับ และน่าจะทำให้เจ้าถิ่นมีหวังขึ้นมาอีกเล็กน้อย

ข่าวร้ายก็คือเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาจะได้ทั้ง แฮร์รี เคน, เดลี อัลลี และ อีริค ดายเออร์ กลับมาลงสนาม และนั่นจะทำให้คู่ต่อสู้ของพวกเขาโหดขึ้นเป็นกองเช่นกัน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------