ผลบอลออนไลน์ 24 ชม. อัพเดตตลอด สกู๊ปบอล

อังกฤษ โชว์ฟอร์มหรูเหลือเกินในแมตช์ไล่ถล่ม สาธารณรัฐเช็ก 5-0 ที่สนามเวมบลีย์ ในศึกฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ นัดแรก โดยแมตช์นี้พระเอกก็คือ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ตะบันแฮตทริกให้ทีม ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจที่เขาจะได้รับเลือกเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์

"สิงโตคำราม" : ผ่า 5 ประเด็น อังกฤษ โหดขย้ำ เช็ก ยับเยิน
arrow_drop_down

"สิงโตคำราม" : ผ่า 5 ประเด็น อังกฤษ โหดขย้ำ เช็ก ยับเยิน

อังกฤษ โชว์ฟอร์มหรูเหลือเกินในแมตช์ไล่ถล่ม สาธารณรัฐเช็ก 5-0 ที่สนามเวมบลีย์ ในศึกฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ นัดแรก โดยแมตช์นี้พระเอกก็คือ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ตะบันแฮตทริกให้ทีม ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจที่เขาจะได้รับเลือกเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์

นอกจากฟอร์มฮอตของ สเตอร์ลิง แล้ว การได้เห็น เจดอน ซานโช่ ลงสนามในวัยแค่ 18 ปี กับ 362 วันซึ่งรั้งอันดับสามนักเตะอายุน้อยสุดที่ได้สตาร์ตเป็นตัวจริงให้ทีมชาติอังกฤษ ในเกมอย่างเป็นทางการที่สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของสายเลือดใหม่ "สิงโตคำราม"

    ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ยังเป็นกุนซือหัวคิดนำสมัยในการเปิดโอกาสให้กับดาวรุ่งได้สัมผัสประสบการณ์ชั้นยอดเพราะนอกจาก ซานโช่ แล้ว ยังมี ดีแคลน ไรซ์ และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ที่ลงเล่นให้ อังกฤษ ในแมตช์นี้ด้วย

 

1. สเตอร์ลิงฮอตเหลือเกิน
    เมื่ออยู่ในฟอร์มฮอตอะไรก็หยุดไม่อยู่ ! ราฮีม สเตอร์ลิง ทำผลงานไม่ค่อยดีนักในศึกฟุตบอลโลก 2018 แถมยิงประตูไม่ได้เลย โดยหลายคนอยากให้มีการดร็อปเขา แต่ แกเร็ธ เซาธ์เกต แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัว ดาวเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และสิ่งนั้นก็ตอบแทนให้เห็นแล้ว

อดีตสตาร์ลิเวอร์พูล สวมบทฮีโร่ซัดแฮตทริกให้กับ อังกฤษ ในเกมไล่ถล่ม สาธารณรัฐเช็ก 5-0 โดยเป็นการทำ 3 ประตูครั้งแรกของเขาในนามทัพ "สิงโตคำราม" ซะด้วย ผลงานแบบนี้ทำให้แฟนบอลทัพ "สิงโตคำราม" อดใจไม่ไหวที่จะต้องเปลี่ยนเสียงบ่นเป็นเสียงสรรเสริญแทน

    ประตูแรก สเตอร์ลิง แสดงให้เห็นถึงการยืนถูกที่ถูกเวลาเมื่อเขาแค่ยื่นขาแตะบอลในจังหวะที่ เจดอน ซานโช่ เปิดเลียดเข้ามากลางประตู ทำให้ทีมขึ้นนำไปก่อน ส่วนประตูที่สองนักเตะโชว์ให้เห็นถึงความเร็วและนำไปสู่การได้จุดโทษ โดย แฮร์รี่ เคน ซัดไม่เหลือซาก

จากนั้นเจ้าตัวได้โอกาสเก่งบวกเฮงเมื่อแนวรับของเช็กสกัดบอลกันไม่ดีไปติดพวกเดียวกันเอง ก่อนบอลจะหลุดไปถึง สเตอร์ลิง งานนี้ก็ไม่พลาดซิครับซัดให้ทีมนำ 3-0 ก่อนที่เขาจะทำผลงานสมบูรณ์แบบด้วยการซัดบอลแฉลบ ออนเดรย์ เซลุสต์ก้า เข้าประตูเป็นแฮตทริกของเขาพร้อมกับทีมนำห่าง 4-0 และถูกเปลี่ยนตัวออก เพื่อให้โอกาส คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ลงมาเล่นแทน

 2. ซานโช่ เฉิดฉาย
    สตาร์ดาวรุ่งจาก "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อาจจะไม่ได้มีชื่อในฐานะผู้ทำประตู แต่ก็มีส่วนในการช่วย อังกฤษ ปั่นป่วนแนวรับเช็กตลอดทั้งเกม ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่สโมสรชั้นนำในยุโรปมากมาย แสดงความสนใจอยากได้นักเตะไปร่วมสังกัด

    สิ่งที่โดดเด่นของ เจดอน ซานโซ่ ก็คือความรวดเร็ว และทักษะในการเลี้ยงบอลที่สุดยอด โดยนักเตะจะอายุครบ 19 ปีในวันจันทร์ที่ 25 มีนาคมนี้ แต่ฝีเท้าจัดจ้านเกินอายุจริงๆ แน่นอนว่าเขาเป็นนักเตะแห่งอนาคตที่ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" จะขาดไม่ได้จริงๆ

สาวก "สิงโตคำราม" ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้เมื่อไหร่ก็ตามที่ อดีตเด็กปั้น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองบอล โดยเขาโชว์ทักษะชั้นยอด และทุกครั้งที่ครอบครองบอลนักเตะสามารถปั่นป่วนกองหลังของสาธารณรัฐเช็ก จนระส่ำระส่ายตั้งเกมรับแทบไม่ทัน

    สิ่งที่เราต้องจดจำเอาไว้ก็คือ ซานโช่ ยังเป็นเพียงดาวรุ่งเท่านั้น แต่ศักยภาพของเขามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และน่าจะเก่งยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า

 3. เซาธ์เกต เสี่ยงไปหน่อย
    แกเร็ธ เซาธ์เกต เริ่มต้นเกมกับ เช็ก ด้วยการใช้กองกลาง 3 ตัว โดยเป็น เอริก ดายเออร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เดเล่ อัลลี่ โดยทั้งสามคนได้เล่นร่วมกันไม่นานเพราะสุดท้ายต้องมีการเปลี่ยนตัว ดายเออร์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ส่วน อัลลี่ ถูกถอดออกเพื่อให้พักร่างกาย

สำหรับการเลือกกองกลางแบบนี้ถือเป็นเรื่องเสี่ยงโดยเฉพาะในการสู้กับทีมที่เน้นเกมรับอย่าง เช็ก โดยในช่วง 20 นาทีแรกของเกม ดูเหมือน เซาธ์เกต จะเสี่ยงใช้นักเตะผิด โดยมิดฟิลด์ทั้งสามคนเล่นติดๆ ขัดๆ แต่ทุกอย่างค่อยๆ มีการพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ดายเออร์ ต้องถูกถอดออกเนื่องจากเจ็บ และส่ง รอสส์ บาร์คลี่ย์ ลงมาแทน ซึ่งการได้ แข้งเชลซี ลงมาเล่นทำให้ทีมมีจังหวะการเล่นดีขึ้น แถมยังมีจังหวะการผ่านบอลเจ๋งๆ หลายครั้งด้วย

    บาร์คลี่ย์ มีส่วนในการช่วยให้ อังกฤษ ได้ประตูแรก โดยหากไม่มี อดีตแข้ง เอฟเวอร์ตัน มีความเป็นไปได้ว่าการผ่านบอลไม่ไหลลื่น หรือดีไม่ดีอาจจะเสียบอลไปเลยก็ได้ แน่นอนว่า บาร์คลี่ย์ ยังเล่นได้ดีเยี่ยมตลอดทั้งเกม ฉะนั้นการเสี่ยงใช้ 3 มิดฟิลด์ที่ไม่ฟิตเต็มร้อยก็ต้องชดใช้เพราะ ดายเออร์ ได้รับบาดเจ็บ แต่ข้อดีก็คือทำให้เขาได้ลองส่ง บาร์คลี่ย์ ลงสนาม และทำผลงานได้น่าพอใจ

 4. แม็คไกวร์ฟอร์มแกร่ง  
    ก่อนหน้านั้น มาเตจ วีดร้า หัวหอกเบิร์นลี่ย์ ของ เช็ก ตราหน้า แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ว่าเป็นจุดอ่อนของ อังกฤษ

 

อย่างไรก็ตาม เซนเตอร์แบ็ก "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ หัวเราะที่หลังดังกล่าว เมื่อเขาแสดงให้เห็นถึงการเป็นหัวใจในเกมรับของทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" เพราะงานนี้ อังกฤษ นอกจากจะถล่มยับไม่นับญาติแล้ว ทีมยังรักษาคลีนชีตได้ 4 เกมจาก 6 แมตช์ด้วย

    แม็คไกวร์ เล่นได้เข้าขากับ ไมเคิ่ล คีน แม้ว่าในช่วงแรกๆ ทั้งคู่ต้องประสบปัญหานิดหน่อยในการรับมือกับแข้งเช็ก แต่สุดท้ายเมื่อปรับตัวได้ ก็สามารถจัดการเกมรุกของผู้มาเยือนได้อยู่หมัด ต้องยอมรับว่าช่วงนี้ แม็คไกวร์ ฟอร์มหรูจริงๆ ส่วน วีดร้า ไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่มีปัญญาทำอะไรคู่แข่งที่เขาบอกว่าเป็นจุดอ่อนได้เลย
 

5. ดาวรุ่งเชลซีสร้างสีสันพอใช้ได้  
    คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย มีชื่อติดธงอังกฤษครั้งแรก แถมยังได้รับโอกาสลงสนามเปิดซิงในแมตช์ถล่ม สาธารณรัฐเช็ก ซะด้วย

    ดาวรุ่งวัย 18 ปี ได้รับโอกาสจาก เซาธ์เกต ด้วยการส่งลงสนามในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ซึ่งนั่นถือเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับนักเตะอายุน้อยนิดขนาดนี้ และจะเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญในการพัฒนา ฮัดสัน-โอดอย ให้ก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของประเทศบ้านเกิด

ยังไม่หมดแค่นั้น ช่วงที่ ฮัดสัน-โอดอย กับ ซานโช อยู่ในสนามพร้อมกัน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 138 ปี ที่ อังกฤษ มีนักเตะอายุ 18 ปี หรือน้อยกว่า เล่นอยู่ในสนามพร้อมกันสองคนในเกมอย่างเป็นทางการ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับสายเลือดใหม่ "สิงโตคำราม" จริงๆ

    ในเกมนี้ ฮัดสัน-โอดอย ซึ่งตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจาก บาเยิร์น มิวนิค แสดงให้เห็นว่าแม้อายุน้อยแต่ไม่เคยหวาดหวั่นที่จะปะทะกับแข้งรุ่นพี่จากเช็กเลย และที่สำคัญเขายังมีส่วนกับประตูที่ห้า เมื่อตะบันเต็มข้อล่อเต็มเท้าบอลพุ่งแฉลบ โทมัส คาลาส กระดอนเข้าประตูตัวเอง.....แม้จะไม่ได้เครดิตแต่แค่นี้ก็ถือเป็นรางวัลที่ดีเยี่ยมกับการลงเล่นเกมแรกในนามอังกฤษ

SHARE ON