ผลบอลออนไลน์ 24 ชม. อัพเดตตลอด สกู๊ปบอล

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีศักยภาพสุดยอดมากขนาดไหน เมื่อจัดหนักจัดเต็มไล่ถลุง "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ย่อยยับ 4-1 ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เมื่อวันพุธที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา

สิงห์ดุขย้ำปืนกระบอกแตก ! 5 ประเด็น เชลซี ระเบิดฟอร์มครึ่งหลังถล่มยับ อาร์เซน่อล
arrow_drop_down

สิงห์ดุขย้ำปืนกระบอกแตก ! 5 ประเด็น เชลซี ระเบิดฟอร์มครึ่งหลังถล่มยับ อาร์เซน่อล

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีศักยภาพสุดยอดมากขนาดไหน เมื่อจัดหนักจัดเต็มไล่ถลุง "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ย่อยยับ 4-1 ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เมื่อวันพุธที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา

    ในครึ่งแรกดูเหมือนสถานการณ์ของทั้งสองทีมค่อนข้างสูสีกันเมื่อไม่สามารถเจาะตาข่ายกันได้ แต่หลังจากลงสนามในครึ่งหลัง เมาริซิโอ ซาร์รี่ โชว์กึ๋นแก้เกมและนำให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ระเบิดฟอร์มสุดโหดด้วยการซัด 4 ประตูจากโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, เปโดร และ เอแด็น อาซาร์ 2 ประตู ขณะที่คู่อริร่วมกรุงลอนดอนได้ประตูปลอบใจจาก อเล็กซ์ อิโวบี้

    หลังจบเกมนี้แน่นอนว่าแฟนบอลเชลซี ต่างยิ้มหน้าบานกับความสำเร็จของทีมรัก แต่ก็ต้องจุกอกเพราะ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม ออกมายืนยันชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของเขา ว่าต้องการที่จะออกไปหาความท้าทายใหม่ถือเป็นการเปิดฉาก 7 ปีแห่งความสุขในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ 

1.  อาร์เซน่อล ต้องการแบ็กขวา

    เกมนี้มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของ 2 ครึ่งในรอบชิงยูโรปา ลีก และ  เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส  ทำผลงานได้อย่างเพอร์เฟกต์ในช่วง 45 นาทีแล้ว เมื่อเขาโชว์ศักยภาพในการเล่นเกมรับ และเกมรุกได้อย่างโดดเด่น โดยทำให้ เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ ต้องเจอกับปัญหาในการรับมือผู้เล่นฝั่งขวา 

    ที่สำคัญ เมทแลนด์-ไนล์ส ยังเป็นนักเตะสำคัญให้กับทีมในการเติมเกมรุกด้วย แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหลังจากเจ้าตัวกลับมาลงเล่นในครึ่งหลัง แน่นอนว่าแฟนบอล "ปืนใหญ่" คงสงสัยว่าเกิดอะไรกับ ดาวรุ่งวัย 21 ปีชาวอังกฤษ ในช่วงพักครึ่ง

    หากมองกันอย่างเป็นกลางฟอร์มที่ย่ำแย่เกิดมาจากนักเตะอาร์เซน่อลยกทีม แต่ที่โดนหมายหัวที่สุดก็คือ เมทแลนด์-ไนล์ส เพราะทั้ง 3 ประตูที่ เชลซี ได้เกิดมาจากจังหวะการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ โดยผ่านบอลทางฝั่งที่เขาประจำตำแหน่ง โดย อาซาร์ ยังเล่นได้สบายๆ ในช่วงครึ่งหลังทางฝั่งขวาด้วย 

    ยิ่งไปกว่านั้น  เมทแลนด์-ไนล์ส ยังมีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมเสียจุดโทษจากการเข้าปะทะแบบไร้สติใส่ ชิรูด์ ด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักเตะที่แย่อะไรมากนัก แต่หากเป็นไปได้ อาร์เซน่อล ควรเซ็นสัญญากับแบ็กขวาอีกสักรายเพื่อเข้ามาช่วยงาน เอคตอร์ เบเยริน ในช่วงที่เขามีปัญหาบาดเจ็บ 
 
2. ชิรูด์ กลับมาหลอน อาร์เซน่อล

โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ รักการเล่นเกมยูโรปา ลีก และเขาจัดการตอบแทนต้นสังกัดเก่าได้แสนเจ็บปวดในค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมา 

    หลังจากครึ่งแรกที่แทบจะไม่ค่อยมีอะไรมากนัก หัวหอกจอมเก๋าชาวฝรั่งเศส จัดการโชว์ทักษะความเป็นยอดดาวยิงในกรอบเขตโทษด้วยการพุ่งโหม่งแบบไม่กลัวเท้าคู่แข่ง ส่งบอลผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารเพื่อนเก่า เข้าไปซุกก้นตาข่ายในช่วงต้นครึ่งหลัง

    ชิรูด์ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่กับ อาร์เซน่อล มาประมาณ 6 ปี โชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมกับการเล่นฟุตบอลถ้วยใบเล็กยุโรป ด้วยการตะบันประตูไปเบาะๆ เบาๆ สบายๆ 11 ลูกจาก 14 เกม คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกมากนัก แต่เขาก็มีบทบาทสำคัญให้กับทีมของกุนซือเมาริซิโอ ซาร์รี่ ในซีซั่นนี้ 

3. อาซาร์ ระเบิดฟอร์มแชมเปี้ยน

   ถ้าหากว่านี่เป็นเกมสุดท้าย (ซึ่งน่าจะจริง) ของ เอแด็น อาซาร์ กับสีเสื้อของ เชลซี แน่นอนว่าสาวก "สิงโตน้ำเงินคราม" คงไม่มีอะไรต้องคร่ำครวญ เพราะนักเตะขวัญใจของพวกเขาระเบิดฟอร์มการเล่นสุดยอดชนิดที่คู่ต่อกรร่วมกรุงลอนดอนไม่สามารถต้านทานได้เลย

    จอมทัพทีมชาติเบลเยียม แอสซิสต์ให้กับ เปโดร ในจังหวะที่ทีมได้ประตูที่สอง ก่อนจะทำหน้าที่สังหารจุดโทษในจังหวะที่  เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส ทำฟาวล์ ชิรูด์ ในเขตโทษ ช่วยทำให้ต้นสังกัดนำห่าง 3-0 แม้ว่า อเล็กซ์ อิโวบี้ จะยิงประตูสุดสวยต่อลมหายใจ "เดอะ กันเนอร์ส" ก็ตาม 

    แต่สุดท้าย อาซาร์ ก็จัดหนักด้วยการจบสกอร์จากจังหวะเปิดบอลของ ชิรูด์ ผลงานระดับมาสเตอร์พีซดูเหมือนว่าจะเป็นการสั่งลานักเตะที่เตรียมจะเก็บข้าวของย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด และยิ่ง อดีตแข้งลีลล์ ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่าถึงเวลาออกหาความท้าทายใหม่ ยิ่งน่าจะเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว 

4. อนาคตของ ซาร์รี่ จะเป็นยังไง ?

    ตอนนี้ เชลซี จะทำยังไงในกรณีของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เพราะในช่วงที่ผ่านมาอนาคตของเขาในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เกิดเครื่องหมายคำถาม "?" มาตลอดว่าจะอยู่หรือไป และยิ่งการที่เขานำทีมได้แชมป์ถ้วยใบเล็กยุโรป ยิ่งทำให้หลายคนอยากรู้อนาคตของ กุนซือชาวอิตาเลียน มากยิ่งขึ้น

    แม้ว่าข้อสงสัยเกี่ยวกับสไตล์การคุมทีม และพฤติกรรมเวลาที่ยืนอยู่ริมเส้นข้างสนามจะจบไปหมดแล้ว ที่สำคัญแฟนบอลเชลซีไม่ควรไปตำหนิผลงานของเขา เพราะการนำทีมได้อันดับ 3 ในตารางลีกเมืองผู้ดี, ได้เข้าชิง คาราบาว คัพ (แพ้ แมนฯ ซิตี้) และตอนนี้ได้แชมป์ ยูโรปา ลีก ถือเป็นผลงานชั้นยอดของ ซาร์รี่

    ฉะนั้นในเวลานี้บอร์ดบริหารของ เชลซี ต้องการที่จะปล่อย ซาร์รี่ ซึ่งว่ากันว่าเจ้าตัวจะไปคุม "ม้าลาย" ยูเวนตุส ออกไป และแต่งตั้งกุนซือที่ไม่ประสบการณ์มาคุมทัพแต่เป็นตำนานของสโมสรอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่โชว์กึ๋นนำดาร์บี้ เคาน์ตี้ ทะลุเพลย์ออฟ ชิงตั๋วขึ้นมาเล่นฟรีเมียร์ลีก แต่ทำไม่สำเร็จ (แพ้ แอสตัน วิลล่า) หรือไม่ 

    กระนั้นเรื่องแชมป์ไม่ได้การันตีว่า ซาร์รี่ จะได้ทำงานกับทีมต่อไป ขนาด คาร์โล อันเชลอตติ นำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่สุดท้ายก็โดนปลดอยู่ดีเมื่อทำผลงานไม่น่าประทับใจ
 
5. ปืนกระบอกแตก

    อาร์เซน่อล เล่ยได้ดีในครึ่งแรก แต่พวกเขาเสียกระบวนหลังจากพักครึ่ง โดยเหตุผลสำคัญก็คือการโดนเบิกประตูขึ้นนำตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง เมื่อโดนเปิดบาดแผลแรกเร็วทำให้ เชลซี ได้ใจ พยายามที่จะไล่บดขยี้จนสามารถเจาะประตูเป็นว่าเล่นในเกมนี้

    อย่างไรก็ตาม "ไอ้ปืนใหญ่" มีโอกาสได้กลับมาแก้ตัวในรายการนี้อีกครั้งสำหรับการแข่งขันในฤดูกาลหน้า แต่ดูเหมือนแฟนบอลของพวกเขาไม่ค่อยปลื้มมากนัก เนื่องจากนี่เป็นฤดูกาลที่ 3 แลวที่ อาร์เซน่อล ไม่ได้เข้าไปร่วมวงโม่เกือกยูฟ่า  แชมเปี้ยนส์ ลีก

    ด้วยสถานะของสโมสรที่ค่อนข้างใหญ่ การได้เล่นในยูโรปาลีกถือว่ายังไม่ดีพอสำหรับพวกเขา และงานนี้แฟนบอลอาร์เซน่อล คงต้องเริ่มคิดหนักกันแล้วว่า อูไน เอเมรี่ กุนซือชาวสแปนิช จะสามารถนำทีมกลับไปติดท็อปโฟร์ในฤดูกาลหน้าได้หรือไม่ และถ้าหากทำไม่ได้ งานนี้เจ้าตัวคงได้รู้ชะตากรรม

 

 

 

SHARE ON