พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดสัปดาห์นี้มีโปรแกรมใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ อาร์เซน่อล มีคิวเปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคมนี้ โดยทั้งคู่ต่างก็กำลังลุ้นแย่งพื้นที่ 4 อันดับแรกของตารางคะแนนกันอยู่ เพื่อที่จะได้สิทธิ์เล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดสัปดาห์นี้มีโปรแกรมใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ อาร์เซน่อล มีคิวเปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคมนี้ โดยทั้งคู่ต่างก็กำลังลุ้นแย่งพื้นที่ 4 อันดับแรกของตารางคะแนนกันอยู่ เพื่อที่จะได้สิทธิ์เล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า

      แน่นอนว่าดีกรีความเป็นคู่อริระหว่างสองทีมนี้ลดน้อยลงไปจากสมัยก่อนเยอะ แต่มันก็มีโอกาสสูงที่เกมนี้จะสนุกระดับ 5 ดาวเหมือนกัน และมันก็มีเกร็ดน่าสนใจหลายอย่างด้วย จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันดีกว่า

    - อาร์เซน่อล พร้อมชนทุกทีมในบ้าน
    โอเค ผลงานโดยรวมของ อูไน เอเมรี่ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล อาจจะยังไม่ถูกใจแฟนบอลหลายคน หลังจากที่ตอนนี้ "ไอ้ปืนใหญ่" ไม่คงเส้นคงวาเท่าที่ควร ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยไม่แพ้ใคร 22 นัดติดต่อกันในทุกรายการ

    อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ทำผลงานในลีกได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อได้เล่นในบ้านของตัวเอง เพราะพวกเขาไม่แพ้ใครคา เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในบ้านของตัวเองมาแล้วถึง 14 นัดติดต่อกัน แบ่งเป็นชนะ 12 เกม และเสมอ 2 หน

    หนสุดท้ายที่ทีมของ เอเมรี่ แพ้คาบ้านในลีกต้องย้อนไปถึงวันที่ 12 สิงหาคม ปีก่อน ที่พวกเขาพ่าย แมนฯ ซิตี้ 0-2 โดยซีซั่นนี้ อาร์เซน่อล เก็บแต้มในบ้านของตัวเองได้เฉลี่ยแล้ว 2.5 แต้มต่อเกม เป็นรองแค่ "เรือใบสีฟ้า" เท่านั้น

       ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านับเฉพาะตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นต้นมาแล้วล่ะก็ อาร์เซน่อล ก็ถือเป็นทีม พรีเมียร์ลีก ที่ทำผลงานในบ้านได้ดีที่สุดด้วย เพราะพวกเขาลงเล่นไป 8 นัด และเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด แม้แต่ ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ยังเก็บแต้มในบ้านในช่วงดังกล่าวได้น้อยกว่าพวกเขาเลย

    - สโลแกนของ แมนฯ ยูไนเต็ด : บ้านคนอื่นก็เหมือนบ้านเรา
    ปกติแล้วทีมต่างๆ มักจะทำผลงานในเกมเยือนได้แย่กว่าเกมเหย้า เพราะบรรยากาศมันต่างไปจากบ้านของตัวเอง และยังมีปัจจัยเรื่องไม่คุ้นเคยกับสภาพสนามด้วย อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ในกรณีของ แมนฯ ยูไนเต็ด

นับตั้งแต่ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวของ แมนฯ ยูไนเต็ด พลพรรค "ปีศาจแดง" ก็ได้เล่นเกมเยือนในทุกรายการรวมแล้ว 9 นัด และพวกเขาก็เก็บชัยชนะได้ทั้งหมดเช่นกัน แบ่งเป็นในลีก 6 นัด, เอฟเอ คัพ 2 หน และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ครั้ง

    ผลงานดังกล่าวทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ มีโอกาสทาบสถิติของสโมสรในด้านการเก็บชัยชนะในเกมเยือนติดต่อกันมากที่สุดในลีก ที่จำนวน 7 นัด นอกจากนี้ มันยังมีเรื่องน่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง เพราะครั้งสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล แพ้คาบ้านเมื่อนับรวมทุกรายการ ก็คือการแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกม เอฟเอ คัพ นั่นเอง

    - กองหน้าผลงานดีพอกัน
    ปัจจุบันกองหน้าตัวหลัก 2 คนของ อาร์เซน่อล ก็คือ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กับ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ส่วนของฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แก่ โรเมลู ลูกากู กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งบังเอิญเหลือเกินที่ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทั้ง 4 คนนี้ทำประตูในลีกได้ 6 ลูกเท่ากัน

ด้วยเหตุนี้ มันคงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าในกลุ่ม 4 คนนี้จะมีใครสักคนมีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดในเกมวันอาทิตย์นี้

    - ถึงเวลา ลูกากู ?
    ลูกากู กลับมาคืนชีพอย่างเต็มที่ภายใต้การทำทีมของ โซลชา ก่อนหน้านี้เขาก็ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งกับการไปยืนเป็นตัวริมเส้น และพอได้กลับมาเป็นกองหน้าตัวเป้าเขาก็โชว์ฟอร์มระดับ 5 ดาวออกมาได้ ด้วยการทำไปถึง 6 ลูกจากการลงเล่น 3 นัดหลังสุดในทุกรายการ

อย่างไรก็ตาม เกมในวันอาทิตย์นี้คือบททดสอบครั้งสำคัญว่าเจ้าตัวจะสามารถช่วยทีมในเกมใหญ่ได้รึเปล่า เพราะนับตั้งแต่ย้ายมอายู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน เขาทำประตูในลีกเวลาเจอกับทีมจากกลุ่มท็อปซิกซ์ (แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, แมนฯ ซิตี้, เชลซี และ ลิเวอร์พูล) ได้เพียง 1 ลูกเท่านั้น จากการลงเล่น 17 นัด

ทั้งนี้ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะก็ ลูกากู สามารถเปลี่ยนโอกาสการยิงทั้งหมดให้เป็นประตูได้แค่ 4 เปอร์เซ็นต์ในการเจอกับทีมในกลุ่มท็อปซิกซ์ ทำให้ต้องรอดูกันว่าฟอร์มอันยอดเยี่ยมในช่วงนี้ของ ลูกากู จะสามารถลบล้างผลงานอันเลวร้ายเวลาเจอกับทีมใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาของเขาได้รึเปล่า