1. ส่งนูรูลลงมาใช้ความเร็วในครึ่งเวลาแรก
ในนัดนี้ "ราเยวัช" เลือกที่จะใช้ นูรูล ศรียานเก็ม ลงมาประจำการริมเส้นทางฝั่งขวา เพื่อที่จะใช้ความเร็วซึ่งเป็นจุดเด่นของเจ้าตัวเวลาเล่นเกมโต้กลับ หรือเวลาที่กองหลังวางบอลยาวไปแดนหน้า ซึ่งก็ได้ผลในการป่วนเกมรับของผู้มาเยือน
2. เกมรับยังมีข้อผิดพลาด
ครึ่งเวลาแรกทัพ "ช้างศึก" ได้ประตูขึ้นนำ ผู้มาเยือนได้เดินหน้าเปิดเกมรุกเพื่อที่จะทวงประตูคือให้ได้ ซึ่งก็มีโอกาสหลายต่อหลายครั้งที่เกือบจะได้ประตูจากความผิดพลาดของกองหลังทีมชาติไทยที่พลาดกันเอง
3. ได้ประตูนำแลัวตั้งรับ
สไตล์ของ "ราเยวัช" ที่ทุกคนชินตา เมื่อทีมชาติไทย ได้ประตูขึ้นนำคู่แข่งจะเห็นการลงไปเน้นตั้งรับในแดนตัวเอง ในนัดนี้ก็เช่นกัน หลังได้ประตูขึ้นนำแต่ยังคงมีบางจังหวะที่ไล่ในแดนบน เพราะทีมเยือนดันแผงขึ้นสูงเพื่อทวงคืนประตู
ครึ่งหลัง จะเห็นว่า ทีมชาติไทย ลงไปแพ็คแน่นในฝั่งตัวเอง และอาศัยลูกสวนกลับ ซึ่งก็สามารถโต้สวยๆได้หลายครั้ง จนสุดท้ายมาได้ประตูตอกย้ำ 3-0 จาก อดิศักดิ์ ไกรษร
4. ใช้ มิก้า เน้นเกมรับ
"ราเยวัช" มีการเปลี่ยนเกมรับด้วยการส่ง มิก้า ชูนวลศรี ลงมาแทน ฟิลิป โรลเลอร์ เพื่อที่ป้องกันการเสียประตูเพราะในเกมนัดที่แล้ว ฟิลิป จะเติมเกมรุกบ่อย จนทำให้ถูกเจาะจากทางด้านขวา ดังนั้นในเกมนี้จึงเลือกใช้ มิก้า จะคอยปักหลักในแดนหลัง
5. งานใหญ่ที่รอคอยในรอบต่อไป
ในรอบรองชนะเลิศ ทีมชาติไทยจะไปพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย รองแชมป์กลุ่มเอ ซึ่งถือว่าทีมที่ผ่านเข้ารอบรองฯ ทุกทีมฝีเท้าไม่ธรรมดา ทำให้หลังจากนี้ทัพ "ช้างศึก" ต้องทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อเข้ารอบชิงฯต่อไป
สำหรับรอบรองชนะเลิศนักแรก ทีมชาติไทยจะไปเยือนทีมชาติมาเลเซีย ที่สนามกีฬาแห่งชาติบูกิตจาลิล ในวันที่ 1 ธันวาคม ก่อนจะกลับมาเล่น ที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 5 ธันวาคม