ลิเวอร์พูล 5-0 ฮัดเดอร์สฟิลด์ : 5 ประเด็นร้อนหลังเกม

   นับเป็นค่ำคืนที่แสนจะมีความสุขสำหรับบรรดา เดอะ ค็อป เพราะยอดทีมสุดที่รักของเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็อย่างว่านี่อาจจะเป็นเกมที่น่าจะง่ายที่สุดในฤดูกาลนี้เพราะ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ เป็นทีมที่ตกชั้นไปแน่นอนแล้ว

   นักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นก็มีอยู่หลายราย นาบี เกอิต้า ที่ซัดประตูเบิกร่องแต่ไก่โห่ ก็มีผลงานที่น่าประทับใจไม่น้อย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ที่กดไปคนละ 2 ประตู ก็มีชื่อเป็นผู้นำดาวซัลโว และโม ซาลาห์ ได้สร้างสถิติใหม่ชนิดที่ว่าสถิติเก่ามีมานานร่วม 100 ปี เลยทีเดียว

   นักเตะที่เจ็บไปนานอย่าง อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอเลย กลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรอง และได้ลงสนามไปเคาะสนิมในเวลาที่เหมาะพอสมควร และเกือบจะยิงประตูได้อีกด้วย 

   และนี่คือ 5 ประเด็นร้อนหลังเกม

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

5. สถิติหลังเกมและรูปเกมโดยรวม

   สถิติหลังเกม เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล มีโอกาสยิงประตูมากถึง 21 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง และมีเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 71 เปอร์เซนต์ ทางฝั่ง ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทีมเยือน มีโอกาสยิงประตู 5 ครั้ง เข้ากรอบ 1 ครั้ง และมีเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 29 เปอร์เซนต์

   หงส์แดง ลิเวอร์พูล ลงสนามด้วยความหวังเพียงเพื่อชนะในอีก 3 นัดที่เหลือ ซึ่งพวกเขามุ่งมั่นกันเอามาก ๆ

   Line up เปิดมาไม่มีชื่อของ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ฟาบินโญ่ แม้กระทั่งบนม้านั่งสำรอง แต่ คล็อปป์ ก็ให้เหตุผลแล้วว่านักเตะมีอาการบาดเจ็บแค่เล็กน้อย กลายเป็น แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ได้รับโอก่าลงสนามเป็นตัวจริง ส่วนม้านั่งสำรองก็มีชื่อของ อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอเลน

   เกมนี้ ลิเวอร์พูล ได้ปประตูขึ้นนำไวเพียงไม่ถึงนาที นาบี เกอิต้า เพรสซิ่งเข้าใส่แนวรับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ และชิงบอลได้สำเร็จบอลไหลไปเข้าทาง ซาลาห์ ก่อนจะเลือกไหลให้ เกอิต้า ในตำแหน่งที่ถูกต้องซัดง่าย ๆ ส่งทีมนำ 1-0

   เทรนต์ อาโนลด์ ยังเป็นเป้าหมายในการเจาะเหมือนเดิมเช่นเดียวกับ เดยัน ลอฟเลน แต่ทั้งคู่ก็รับมือได้อย่างเยี่ยมยอด

   แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน โดนเจาะเป็นบางครั้ง การที่คู่แข่งไม่เลือกบุกทางฝั่งเขาแบบเต็มกำลังทำให้ โรเบิร์ตสัน มีอิสระในการเติมเกมรุก และเกมนี้ทำได้ดีเลยทีเดียว 

   แดนกลางวันนี้ โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น นาบี เกอิต้า ที่สร้างสรรค์เกม เก็บกวาดได้อย่างน่าประทับใจ ไวจ์นัลดุม ที่ดูจะหลุดฟอร์มไปก็กลับมาทำผลงานได้ดีเช่นเคย ส่วน เฮนเดอร์สัน ได้รับบทบาทกองกลางเบอร์ 8 ก็แปะบอลเหมือนเคยแต่โดยรวมไม่แย่นะ

   แดนหน้าที่เห็นคือ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย ฝืนเล่นในหลาย ๆ จังหวะ เข้าใจแลเวว่าทำไมช่วงหลังไม่ค่อยได้รับโอกาสจาก คล็อปป์

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4. ความยอดเยี่ยมของ มาเน่ และ ซาลาห์

   สัปดาห์นี้ โม ซาลาห์ ลงสนามให้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 100 ให้กับ ลิเวอร์พูล โดยเขาเฉลิมฉลองตัวเลขดังกล่าวด้วยประตูที่ 68 และ 69 ให้กับสโมสร นอกจากนี้เขายังคงอยู่ในเส้นทางการรักษารางวัลรองเท้าทองคำเอาไว้ด้วย ส่วนซาดิโอ มาเน่ ก็มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยม PFA ซึ่งถือเป็นที่ยอดเยี่ยมสำหรับเจ้าตัว 

   โม ซาลาห์ ยิงประตูให้ลิเวอร์พูลได้มากที่สุดในการลงเล่น 100 นัดที่จำนวน 69 ประตู ทำลายสถิติเดิมของ แซม เรย์โบลด์ (1900-07) และ โรเจอร์ ฮันท์ (1959-69) 2 ตำนานของทีมทำเอาไว้ที่ 68 ประตู 

   ซาลาห์ เป็นผู้เล่นคนที่ 3 ของสโมสรที่ยิงในพรีเมียร์ลีกได้อย่างน้อย 20 ประตู 2 ฤดูกาลติดต่อกันถัดจาก ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (1994/95 และ  1995/96) และ หลุยส์ ซัวเรซ  (2012/13 และ 2013/14) 

   ลิเวอร์พูล เป็นทีมแรกที่มีนักเตะ 2 คนยิงได้ถึง 20 ประตูในฤดูกาลเดียวคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 21 ประตู และ ซาดิโอ มาเน่ 20 ประตู นับตั้งแต่ลิเวอร์พูลอีกเช่นกันที่ทำได้โดย หลุยส์ ซัวเรซ และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ในฤดูกาล 2013/14 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3. อาลิสซง เบ็คเกอร์ กับคลีนชีท ซีซั่นแรกของเขา

   อาลีสซง เบ็คเกอร์ กลายเป็นผู้รักษาประตูคนที่ 5 ในพรีเมียร์ลีกที่เก็บคลีนชีตได้ถึง 20 นัดต่อจาก ปีเตอร์ เช็ก (24 นัด), เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ (21 นัด), ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล (20 นัด) และ เปเป้ เรน่า (20 นัด) และหากทำได้ในนัดต่อไปก็จะทำสถิติใหม่ของสโมสรแซงหน้า เปเป้ เรน่า  

   ซึ่งเกมรับที่สมบูรณ์แบบ ถ้าไม่ใช่ในเกมกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ก็เกมกับวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส จะทำให้ได้ลุ้นว่านายประตูชาวบราซิลรายนี้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้หรือไม่

   นี่จะเป็นการเริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งฟุตบอลกับลิเวอร์พูลของเขาที่ยอดเยี่ยม

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2. ขอเสียงปรบมือต้อนรับ อเล็กซ์ อ็อกเหลด-แชมเบอเลน

   การถูกเปลี่ยนลงสนามมาในช่วงนาที 70 พร้อมกับเสียงปรบมือต้อนรับที่ดังกระหึ่มของแฟน ๆ บ่งบอกทุกอย่างแล้วว่าพวกเขาต้องการนายแค่ไหน

   ระยะเวลา 1 ปีกับอีก 2 วันนับจากการประสบปัญหาการบาดเจ็บหัวเข่าอย่างรุนแรงจากเกมกับ โรม่า ใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เฝ้ารักษาฟินฟูตัวเองและล่าสุดได้กลับมาสู่การแข่งขันอย่างเป็นทางการ

   แชมเบอเลน ได้รับความไว้วางใจจาก คล็อปป์ เลือกส่งสนามลงมาแทนที่ของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ในนาที 73 ซึ่งแฟนบอล เดอะ ค็อป ลุกขึ้นยืนปรบมือให้กำลังใจแบบยินดีปรีดา

   ซึ่งเจ้าตัวกือบทำให้การกลับมาของเขาเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเมื่อเกือบจะทำประตูได้ แต่ ลอสเซล ต้องออกแรงเซฟเพียงไม่กี่นาทีหลังจากเขาลงสนาม

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. นับเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของ ลิเวอร์พูล

   ลิเวอร์พูลเก็บไปแล้ว 91 คะแนน เป็นสถิติสูงสุดของสโมสรนับตั้งแต่การแข่งขันใช้ระบบชนะได้ 3 คะแนนและแข่ง 38 นัด ส่วนสถิติทั้งหมดคือทำได้ 98 คะแนนในฤดูกาล 1978/79 แต่ตอนนั้นแข่ง 42 นัด 

   ลิเวอร์พูลชนะ 10 นัดติดต่อกันจากทุกรายการ เป็นสถิติดีสุดนับตั้งแต่พฤษภาคมปี 2006 ที่ชนะ 11 นัดติดต่อกัน

   การแซงนำจ่าฝูงอีกครั้งของลิเวอร์พูลนับเป็นครั้งที่ 29 ในฤดูกาลนี้ที่จ่าฝูงเปลี่ยนมือ สถิติจ่าฝูงสลับตำแหน่งกันมากที่สุดคือ 28 ครั้งในฤดูกาล 2001/02 

   ลิเวอร์พูล เก็บไปแล้ว 50 คะแนนในแอนฟิลด์ เป็นสถิติดีสุดในบ้านยุคพรีเมียร์ลีก และดีสุดเทียบเท่าสถิติ 50 คะแนนที่เคยทำได้ในฤดูกาล 1987/88 ซึ่งตอนนั้นยังเป็นดิวิชั่น 1 และหงส์แดงยังมีเกมในบ้านอีกนัดในฤดูกาลนี้คือนัดสุดท้ายที่จะรับมือวูล์ฟแฮมป์ตัน 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------