ลิเวอร์พูล 0-0 บาเยิร์น มิวนิค : 5 ประเด็นที่เราเรียนรู้หลังเกม

5. เสือใต้ ยังคงเป็นท็อปทีม

   บาเยิร์น มิวนิค ที่มีนักเตะอย่าง มานูเอล นอยเออร์, แมตส์ ฮุมเมลส์ และ โจชัว คิมมิช กล้าที่จะขึ้นบอลสั้นจากแดนหลังอย่างเยือกเย็น ซึ่งแม้จะมีช็อตที่น่าหวาดเสียวอยู่บ้างแต่โดยรวมพวกเขายังนับว่าแข็งแกร่งในเกมรับสุดๆ จนทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถพังประตูพวกเขาได้

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4. การแก้ปัญหาเกมรับเฉพาะหน้าของ หงส์แดง ได้ผล

   การต้องรับมือกับแนวรุกอย่าง แซร์จ กนาร์บรี, คิงสลีย์ โกม็อง และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ถือว่าเป็นงานอยากไม่น้อย และการที่ หงส์แดง ต้องขาด เวอร์จิล ฟาน ไดค์ โดยใช้ ฟาบินโญ ประจำการแทนที่ร่วมกับ​ โจเอล มาติป 

   นับได้ว่าคู่เซ็นเตอร์แบ็คของ หงส์แดง ทำได้น่าประทับใจเมื่อสามารถจำกัดการสัมผัสบอลของคีย์แมน เสือใต้ อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้เพียง 3 ครั้งในกรอบเขตโทษ ขณะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แม้จะมีช็อตถูก โกม็อง และ กนาร์บรี อยู่บ้างแต่โดยรวมก็ยังถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่งกับการรักษาคลีนชีทไว้ได้

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3. ภูผาที่ฝั่งขวาของ เสือใต้

   ไม่มีผู้เล่นคนใดที่ทำสถิติเข้าสกัดบอลและเอาชนะลูกกลางอากาศได้มากกว่า โจชัว คิมมิช ในครึ่งแรก (3 ครั้งและ 2 ครั้งตามลำดับ) ดาวเตะวัย 24 ปีทำหน้าที่ในเกมรับได้อย่างแข็งแกร่งแม้จะมีช็อตถูก ซาดิโอ มาเน เผาเครื่องให้เห็น

   แต่ที่น่าสนใจคือ คิมมิช ได้รับใบเหลืองและจะชดใช้โทษแบนในเกมหน้าที่ อัลลิแอนซ์ อารีนา เปิดทางให้ ราฟินญา ลงสนามแทนที่ ซึ่ง หงส์แดง มีสิทธิ์ที่จะใช้ความได้เปรียบดังกล่าวในเกมเลกที่สอง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2. กัปตันเฮนโด้

   มิดฟิลด์วัย 28 ปีได้รับบทบาทให้เป็นตัวเก็บกวาดหน้าแผงหลัง ทำสถิติเข้าสกัด 4 ครั้ง เอาชนะลูกกลางอากาศ 3 ครั้งมากที่สุดในแข้ง หงส์แดง และผ่านบอลสำเร็จ 83 เปอร์เซ็นต์จากการสัมผัสบอลทั้งหมด 78  ครั้ง

   เจ้าตัวอาจจะไม่ได้มีความวูบวาบเช่นเดียวกับผู้เล่นในแนวรุกสปีดจัด แต่เจ้าตัวถือเป็นอีกหนึ่งในคีย์แมนจากการปักหลักปัดกวาดหน้าแนวรับ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. โอกาสที่เสียไปของ ลิเวอร์พูล

   แม้จะออกสตาร์ทเกมนี้ด้วยสถิติปราชัยในเกมเยือน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม ความหวังในการที่จะเก็บ บาเยิร์น มิวนิค ในเลกแรกจึงถูกตั้งเอาไว้พร้อมกับความเป็นไปได้ที่สามารถจะเกิดขึ้นได้เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาของเกม

   การเสมอ 0-0 ดูจะน่าเสียดายกับ หงส์แดง มากกว่าเมื่อดูจากโอกาสที่พวกเขาสามารถสร้างได้ ส่วนฝั่ง เสือใต้ ดูจะโล่งใจกับการรักษาคลีนชีท และน่าดูว่าเกมในเลกที่สองจะออกมาเป็นอย่างไร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------