รู้จักแม่ทัพช้างศึกคนใหม่"อากิระ นิชิโนะ"

         โดยช่วงเวลา3ทุ่มครึ่งของวันที่1 กรกฏาคม 2562 เป็นเวลาที่วงการฟุตบอลไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่ออากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย64ปี 

         และอดีตเฮ้ดโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นชุดลุยฟุตบอลโลก2018 ซึ่งปัจจุบันยังเป็นประธานพัฒนาเทคนิคทัพซามูไรบลู เดินทางมายังที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

         เพื่อหารือในการเซ็นสัญญาคุมทีมชาติไทย หลังเมื่อวันที่29-30มิถุนายนที่ผ่านมานั้นได้มาชมเกมฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก ที่สนามทรู สเตเดี้ยมและสนามชลบุรี สเตเดี้ยม

         ซึ่งเงื่อนไขลายละเอียดมีจำนวนมากทำให้"นิชิโนะ"ใช้เวลาเจรจากับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯกว่า10ชั่วโมง ก่อนจะตอบรับตกลงคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่และทีมชาติไทยยู-23

         ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อกลับไปเคลียร์เรื่องส่วนตัวก่อนมาเปิดตัวเป็นแม่ทัพ"ช้างศึก"คนใหม่อย่างเป็นทางการต่อไป 

         แน่นอนว่ากุนซือรายนี้นับเป็นเฮ้ดโค้ชคนที่14จากต่างแดนที่ตบเท้าเข้ามาคุมบังเหียนทีมลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

         ซึ่งก่อนหน้านี้ประกอบไปด้วย กุนเธอร์ กลอมป์ (เยอรมัน 2511-2518), เพเทอร์ ชนิทเกอร์ (เยอรมัน 2519-2521), แวร์เนอร์ บิคเคลเฮาพท์ (เยอรมัน 2522-2524), บัวร์กฮาร์ด ซีเซอ (เยอรมัน 2528-2529)

         คาร์ลอส โรแบร์โต คาร์วัลโญ (บราซิล ครั้งแรก 2532-2534, ครั้งที่สอง 2546-2547), ปีเตอร์ สตัปป์ (เยอรมัน  2535-2537), เดทท์มาร์ คราเมอร์ (เยอรมัน 2540), ปีเตอร์ วิธ (อังกฤษ 2541-2545)

         ซิกกี้ เฮลด์ (เยอรมัน  2547-2548), ปีเตอร์ รีด (อังกฤษ 2551-2552), ไบรอัน ร็อบสัน (อังกฤษ 2552-2554), วินฟรีด เชเฟอร์ (เยอรมัน 2554-2556) และ มิโลวาน ราเยวัช (เซอร์เบีย 26 เม.ย.60-7 ม.ค.62)

         สำหรับ กุนซือสายเลือดซามูไรวัย 64 ปีรายนี้  เกิดวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1955 เป็นอดีตนักฟุตบอล  ผ่านประสบการณ์การคุมทีมมาทุกรูปแบบ ทั้งในระดับสโมสร และระดับทีมชาติ ประสบการณ์คุมทีมในระดับสโสมสร

         “นิชิโนะ”เริ่มต้นเส้นทางการคุมทีมจากสโมสรฟุตบอลฮิตาชิ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นคาชิวะ เรย์โซล)ปี1998  ต่อมาได้ย้ายมาคุมทีมระดับท็อปของเจลีกญี่ปุ่นอีกมากมาย ได้แก่ กัมบะ โอซากะ ปี2020 , วิซเซล โกเบ ปี2012  รวมไปถึง นาโกยา แกรมปัส ปี2014

         “นิชิโนะซัง” ได้รับโอกาสให้คุมทัพเด็กๆซามูไร ทีมชาติญี่ปุ่น ยู-20 และทีมชาติญี่ปุ่น ยู-23 ในเวลาต่อมา และยังได้รับโอกาสคุมทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ ลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเมื่อปี 2018 และสามารถพาขุนพล "ซามูไรบลู" ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

         ทั้งนี้ นิชิโนะ วัย 64 ถูกบันทึกชื่อว่า เป็นโค้ชคนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์พา กัมบะ โอซาก้า คว้าแชมป์ 4 รายการใหญ่ได้แก่ แชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2008, ครองถ้วย เอ็มเพอเรอร์ส คัพ สองสมัยในปี 2008 และ 2009, คว้าแชมป์เจลีกในปี 2005 และคว้าแชมป์ เจลีก คัพ สองครั้งในปี 1999 และ 2007

         ในส่วนค่าเหนื่อยของเขาครั้งนี้ คาดกันว่า จะตกอยู่ปีละราว 20 กว่าล้านบาท น้อยกว่าสมัยคุมทีมชาติญี่ปุ่นที่รับอยู่ปีละประมาณ 30 ล้านบาท

         หลังจากนี้ต้องติดตามว่านิชิโนะ ที่ตัดสินใจเลือกเข้ามาทำงานกับทัพช้างศึกนั้นจะมีผลงานเป็นอย่างไร ซึ่งจากที่ผ่านมากุนซือโปรไฟล์ดีๆนั้นมักตกม้าตายกับทีมชาติไทย แต่หวังว่าเราจะเดินหน้าพัฒนาไปพร้อมกับกุนซือรายนี้