เรามาเช็คประเด็นและเกร็ดน่าสนใจก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดรองสุดท้ายกันเลยว่ามีอะไรที่ให้น่าพูดถึงกันบ้าง

บอร์นมัธ-สปอร์ส

น่าสนใจว่าสเปอร์สจะจัดทัพอย่างไร เมื่อมีภารกิจบอลยุโรปช่วงกลางสัปดาห์ มิหนำซ้ำตัวเจ็บของไก่เดือยทองเพียบไล่ตั้งแต่แยน แฟร์ต็องเก้น, แซร์จ ออริเย่ร์ สองรายที่ต้องเช็คความฟิต ขณะที่ เอริค ลาเมล่า, แฮร์รี่ วิงค์ส และแฮร์รี่ เคน พลาดลงสนามแน่นอน

เรื่องให้ชื่นใจของสเปอร์ส ก็คือ การกับเดอะ เชอร์รี่ส์ พวกเขามีค่าเฉลี่ยนพังประตูใส่เฉลี่ย 3.1 ประตู จากการเจอกัน 7 นัด ด้านตัวผู้เล่น ซน ฮึง-มิน ก็ซัดประตูใส่บอร์นมัธไปแล้ว  5 ประตู จาก 4 เกม ส่วนคริสเตียน เอริคเซ่น มักจะมีส่วนร่วมกับประตูที่สเปอร์สทำใส่บอร์นมัธ โดยทำได้  3 ประตู และ 4 แอสซิสต์

    คัลลั่ม วิลสัน หัวหอกบอร์นมัธ ฟอร์มฮ็อตเหลือหลาย 9 นัดหลังสุด มีส่วนร่วมไปถึง 10 ประตู ยิงได้ 6 และ 4 แอสซิสต์
นิวคาสเซิล-ลิเวอร์พูล

บททดสอบหัวจิตหัวใจของลิเวอร์พูล ว่าจะลืมความช้ำที่คัมป์ นู ได้หรือไม่ ซึ่งผลงานเกมลีกของพวกเขาสบายใจหายห่วงเมื่อคว้าชัยติดต่อกันมาแล้ว 7 นัด

    ราฟา เบนิเตซ อดีตกุนซือหงส์แดง กลบกระแสที่ว่าอาจช่วยให้ทีมเก่าของเขาก้าวไปเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก "พวกเราจะทำให้ดีที่สุดในช่วงที่เหลือของฤดูกาล และจะพยายามชนะในทุกๆเกม"

    หากพลพรรคหงส์แดง เห็นสถิติในบ้านของนิวคาสเซิลแล้วจะต้องหนาว เมื่อเดอะ แม็กพายส์ เอาชนะที่บ้านตัวเองในเดือนพฤษภาคม มาแล้ว 4 เกมติดต่อกัน โดยยิงได้ถึง 13 ประตู และเสียประตูเดียว เท่านั้นไม่พอ 7 เกมหลังสุดในบ้านสาลิกาดง เอาชนะได้ถึง 6 เกม และยิงได้อย่างน้อยสองประตูในเกมที่เอาชนะได้ในเกมเหล่านั้น

    ส่วน ลิเวอร์พูล มองหาเกมชัยชนะเหนือนิวคาสเซิล 3 เกมติดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 และหลังจากหยุดฟอร์มฝืดยิงไม่ได้ 6 เกมติดต่อกัน จากนั้นมาโม ซาลาห์ซัดไปแล้ว 4 ประตู จาก 4 นัด

เชลซี-วัตฟอร์ด

วัตฟอร์ด ยังมีลุ้นทำแต้มไปศึกยูโรปา ลีก ส่วนเชลซี ก็ต้องทำอันดับเพื่อติดท็อปโฟร์

    สิงห์บลูส์ ไม่แพ้ต่อวัตฟอร์ดในบ้านตัวเองมาแล้ว 11 เกมติดต่อกัน ทุกรายการ เอแด็น อาซาร์ มีส่วนร่วมกับประตูใส่แตนอาละวาด 4ประตู จาก 3 เกมหลัง

    วัตฟอร์ด เป็นทีมที่ยิงประตูใส่เชลซีมากสุดในช่วง 4 ปีหลังสุด โดยยิงได้ถึง 13 ประตู และมายิงได้ถึงเดอะ บริดจ์ 7 ลูก

ฮัดเดอร์สฟิลด์-แมนฯยูไนเต็ด

เป็นโอกาสดีที่แมนฯยูไนเต็ดจะกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง หลังไร้ชัยในสามเกมหลังสุด ส่วนฮัดเดอร์สฟิลด์ แพ้ 8 เกมติดเข้าให้แล้ว

    เจ้าถิ่น ชนะเพียงนัดเดียวจาก 13 เกมหลังสุดที่เจอกับแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งชัยชนะนัดเดียวเกิดขึ้นเมื่อซีซั่นที่แล้ว 

    ขุนพลเดอะ เทอร์เรียร์ส ต้องการอีกหนึ่งประตูเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นทีมที่ยิงประตูในบ้านได้น้อยสุด

    สถิติน่าสนใจอย่างหนึ่งคือ แมนฯยูไนเต็ด ไม่ชนะการเล่นนอกบ้านนัดสุดท้ายของฤดูกาลมาแล้ว 6 เกมติด โดยชัยชนะนัดสุดท้ายนั้นต้องย้อนไปเมื่อซีซั่น 2011/12 ที่บุกชนะซันเดอร์แลนด์ 1-0 จากประตูชัยของเวย์น รูนี่ย์

อาร์เซน่อล-ไบร์ทตัน

เก็บชัยเหนือบาเลนเซียได้ 3-1 น่าจะเพิ่มกำลังใจของอาร์เซน่อลได้เยอะ และเกมนี้ต้องมาเน้นในลีกเพื่อเกาะติดท็อปโฟร์ต่อไป ส่วนไบร์ทตัน ขออย่างน้อยคะแนนเดียวเพื่อความอยู่รอดบนลีกสูงสุด

    อาร์เซน่อล ไม่แพ้ต่อไบร์ทตันในบ้านมาแล้ว 7 เกม ขณะที่คริส ฮิวจ์ตัน มีลุ้นเล็กๆที่จะเป็นทีมจากแดนใต้ที่บุกมาชนะเดอะ กันเนอร์ส ได้เป็นทีมแรก หลังก่อนหน้านี้ 32 นัด เสมอ 7 และแพ้ไปถึง 25

แมนฯซิตี้-เลสเตอร์ ซิตี้

ไม่ว่าผลจะคู่ลิเวอร์พูลจะเป็นอย่างไร หากแมนฯซิตี้ยังเก็บชัยชนะได้ พวกเขาก็จะยังเป็นจ่าฝูงต่อไป

    เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตกุนซือลิเวอร์พูลอีกคน ลั่นวาจาว่า"ตอนนี้นักเตะของเรามีความมั่นใจ พวกเขารู้ว่า จะสามารถเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้" ซึ่งบรรดาเดอะ ค็อป จะต้องแห่กันให้กำลังใจเลสเตอร์ แน่นอน

    หากเซร์คิโอ อเกวโร่ ทำประตูได้จะทำให้เขาทำสถิติทาบของเก่าที่เคยทำไว้ในการยิงประตูในบ้านตัวเอง 16 ลูก

    การเล่นในคืนวันจันทร์ของเดอะ ฟ็อกซ์ ไม่น่าจดจำนักเมื่อพวกเขาไม่สามารถเอาชนะใครได้มาแล้ว 11 เกม โดยเสมอไป 3 แพ้ 8 

    นับตั้งแต่เจมี่ วาร์ดี้ เล่นพรีเมียร์ลีกครั้งแรกเมื่อซีซั่น 2014/15 อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ซัดประตูใส่ทีมท็อปซิกซ์ไปแล้ว 31 ประตู ซึ่งมากที่สุดไม่มีใครเทียบเคียงได้เลย