บาร์เซโลนา 3-0 แมนฯ ยูไนเต็ด : เก็บตก 5 ประเด็นร้อนหลังเกม

5. ความเป็นไปของเกม

   ปีศาจแดง ออกสตาร์ทได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ และพวกเขาเกือบจะสร้างจุดเปลี่ยนได้จากโอกาสของ มาร์คัส แรชฟอร์ด รวมทั้ง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่เกิดขึ้น

   หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ บาร์เซโลนา ก็สามารถตั้งเกมของตัวเองได้ก่อนที่จะถูกปฎิเสธจุดโทษจาก VAR ทว่าความผิดพลาดอย่างต่อเนื่องของ แอชลีย์ ยัง จึงถูกลงโทษโดย ลิโอเนล เมสซี ในที่สุด และเกมพวกเขาก็สิ้นสุดลงหลังจากนั้น

   ลูกทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ไม่สามารถเร่งเครื่องเพื่อเปลี่ยนโมเมนตัมของเกมได้หลังจากโดนรัวยิง 2 ประตูในครึ่งแรกอย่างรวดเร็วเมื่อถูกแดนกลางของ บาร์ซา ครองเกมไว้ได้หมด แถมในช่วงท้ายยังถูกบรรดาแข้ง อาซูลกรานา หลอกล่อเป็นว่าเล่น

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4. ความผิดพลาดของ เด เคอา

   หนี่งในนายทวารระดับเบอร์ต้นของโลกกลับพลาดอย่างไม่น่าพลาดในเกมชี้เป็นชี้ตายของทีมที่ คัมป์นู โดยเจ้าตัวกะจังหวะลูกยิงไกลของ เมสซี พลาดในประตูที่สองจนทำให้บอลลอดตัวของเขาเข้าประตู

   ข้อแก้ตัวที่ดีที่สุดที่เราจะมีให้เขาได้ก็คือ เด เคอา คาดไม่ถึงว่า เมสซี จะยิงด้วยเท้าขวาพร้อมกับบอลที่กระดอนระดับหน้าแข้งแถมยังไม่ห่างจากตัวของเขามากนักทำให้การกะจังหวะล้มตัวรับบอลไม่สัมพันธ์กับลูกยิงของคีย์แมน บาร์ซา

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3. เมสซี ไร้เทียมทาน

   หลังจากเลกแรกที่เงียบเชียบใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด สตาร์อย่าง ลิโอเนล เมสซี ก็ได้แสดงให้เห็นว่าเขายังคงเป็นหนึ่งในนักเตะระดับท็อปของโลกจากฟอร์มการเล่นในเกมนี้

   เมสซี มีส่วนร่วมกับทั้ง 3 ประตูที่เกิดขึ้นเมื่อเป็นคนพาบอลเข้าไปเลี้ยงจี้ซัดผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ในสองลูกแรก (แม้ประตูที่สองจะมีส่วนจากความผิดพลาดของ เด เคอา ก็ตาม) ก่อนที่จะเป็นคนเริ่มต้นจังหวะได้ประตูที่สามจากการผ่านบอลจากกลางสนามและ ฟิลิปเป้ คูตินโญ ยิงปิดท้าย

   เมสซี ยังครองบอลอย่างเหนียวแน่น หลอกล่อผู้เล่นโดยการแตะลอดขาผู้เล่น ปีศาจแดง ครั้งแล้วครั้งเล่าจนทำให้ดูเหมือนผู้ใหญ่เล่นฟุตบอลกับเด็กอย่างไรอย่างนั้น

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2. พอกันที แอชลีย์ ยัง

   หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างผิดหวังในเกมเลกแรกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อครอสไม่เข้าเป้าเลยสักครั้งเดียว  เกมนี้ฟูลแบ็ควัย 33 ปีถูกโยกไปประจำการที่ตำแหน่งแบ็คซ้ายและก็กลายเป็นตัวตลกของทีมอีกครั้ง

   เจ้าตัวรับผิดชอบเต็มๆ กับประตูแรกที่ทีมเสียเมื่อเสียดายบอล ไปเล่นยากที่แนวรับจนถูกผู้เล่นของ บาร์เซโลนา เข้ามาไล่กดดันจนเสียบอลให้กับ ลิโอเนล เมสซี เลี้ยงเข้าไปพังประตูในที่สุด หลังจากนั้นเจ้าตัวยังแสดงความผิดพลาดให้เห็นจนน่าหงุดหงิดหลายต่อหลายครั้ง

   ยัง อาจจะทำได้ดีเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่มีศักยภาพด้อยกว่า แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถรับมือกับฟุตบอลในระดับสูงได้อีกต่อไปแล้ว

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. ช่วงเวลาที่ยากลำบากของ ปีศาจแดง รออยู่

   จนถึงตอนนี้ เร้ดเดวิลส์ ปราชัย 5 นัดจาก 7 เกมหลังสุดและ โอเล กุนนาร์ โซลชา ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดีเท่าไหร่นักจากฟอร์มโดยรวมของทีมในช่วงหลัง

   ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นคือ ปีศาจแดง มีเกมหนักใน พรีเมียร์ลีก เอฟเวอร์ตัน (เยือน) รออยู่ในสุดสัปดาห์นี้ ตามด้วยการดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า), เชลซี (เหย้า) และเปิดท้ายด้วย ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เยือน) กับ คาร์ดิฟฟ์ (เหย้า)

   น่าสนใจว่าช่วง 3 เกมอันตรายต่อไปจากนี้อาจมีสิทธิ์ที่จะชี้ชะตา ผีแดง ในศึกชิงท็อปโฟร์และ โซลชา จะสามารถพาลูกทีมคัมแบ็คกลับมาได้หรือไม่

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------