นาบรี้ยิงอีกแล้ว! ซัดปิดท้ายพาเยอรมันบุกทุบไอร์แลนด์เหนือขึ้นจ่าฝูง

ไอร์แลนด์เหนือ พบกับความพ่ายแพ้เป็นเกมแรกแล้วหลังเปิดบ้านพ่ายให้ "อินทรีเหล็ก" 0-2 มาร์เซล ฮัลส์เทนเบิร์ก ซัดสุดสวยต้นครึ่งหลังก่อน แซร์จ นาบรี้ จะยิงช่วงทดเจ็บ ส่งผลให้ไอร์แลนด์เหนือแพ้เป็นเกมแรก หยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 4 นัดติดต่อกัน พร้อมกับถูก เยอรมัน ที่มี 12 คะแนนเท่ากันนั้นแซงนำจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า

ไอร์แลนด์เหนือ พบกับความพ่ายแพ้เป็นเกมแรกแล้วหลังเปิดบ้านพ่ายให้ "อินทรีเหล็ก" 0-2 มาร์เซล ฮัลส์เทนเบิร์ก ซัดสุดสวยต้นครึ่งหลังก่อน แซร์จ นาบรี้ จะยิงช่วงทดเจ็บ ส่งผลให้ไอร์แลนด์เหนือแพ้เป็นเกมแรก หยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 4 นัดติดต่อกัน พร้อมกับถูก เยอรมัน ที่มี 12 คะแนนเท่ากันนั้นแซงนำจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า 

สนาม : วินด์เซอร์ พาร์ค

    ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันของ กลุ่ม ซี นัดที่ 5 ระหว่างเจ้าถิ่น ไอร์แลนด์เหนือ ที่แข่งมา 4 นัดชนะรวดมี 12 คะแนนนำเป็นจ่าฝูง รับการมาเยือนของ เยอรมัน ที่เกมล่าสุดแพ้คาบ้านให้ ฮอลแลนด์ 2-4

 

    แค่ 7 นาทีแรก "อินทรีเหล็ก" เกือบเป็นฝ่ายตามหลังก่อน หลัง โทนี่ โครส จ่ายบอลเข้ากลางไปติดบล็อคแข้งเจ้าถิ่นบอลเลยมาถึง คอเนอร์ วอชิงตัน หลุดเข้าไปดวลกับ นอยเออร์ แต่ดีที่นายด่านจาก "เสือใต้" ยังช่วยเซฟให้ทีมไม่เสียประตู

    ถัดมาไม่ถึงนาที เยอรมัน ได้สวนกลับบ้าง ยูเลี่ยน บรันด์ท พาบอลโต้กลับมาก่อนแทงออกซ้ายให้ ติโม แวร์เนอร์ เลี้ยงจี้แล้วซัดด้วยขวาไปติดบล็อคพวกเดียวกันเอง

    นาที 22 มาร์เซล ฮัลส์เทนเบิร์ก เปิดเข้ากลางไปให้ ยูเลี่ยน บรันด์ท ซัดด้วยซ้ายไปติดมือ จอนนี่ อีแวนส์ แม้แข้งอินทรีเหล็กจะฟ้องว่าเป็นแฮนด์บอลแต่ผุ้ตัดสินผายมือให้เล่นต่อไม่ว่าอะไร

    อีก 5 นาทีต่อมา ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ ปาดบอลเข้ามาในกรอบให้  ติโม แวร์เนอร์ หวดด้วยขวาตามน้ำบอลพุ่งไปแฉลบมือ เคร็ก แคธคาร์ท ออกหลังซึ่งจังหวะนี้ผู้เล่นเยอรมันไม่พอใจ ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ เชิ้ตดำชาวอิตาลีว่าทำไม่ไม่เป็นแฮนด์บอลอีก

    นาที 40 โยอาคิม เลิฟ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกหลัง  มัทธีอัส กินเทอร์ เจ็บเท้าจนเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องส่ง โจนาธาน ทาห์ ลงมาเล่นแทน

    ช่วงทดเจ็บท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่นพลาดโอกาสขึ้นนำหลัง สจ๊วร์ต ดัลลัส ครอสบอลมาหน้าประตูจน มานูเอล นอยเออร์ ปัดบอลไม่ดีมาเข้าทาง คอเนอร์ วอชิงตัน ปรี่เข้าไปล้มตัวยิงแต่ยังดีติดบล็อคแนวรับอินทรีเหล็ก 

    ถัดมาไม่ถึงนาที แข้งเบียร์สวนกลับเร็ว มาร์เซล ฮัลส์เทนเบิร์ก วางบอลยาวมาให้ มาร์โค รอยส์ แปเข้ากรอบ 6 หลา ติโม แวร์เนอร์ วิ่งมายิงด้วยขวาแต่บอลยังไปติดตัว พีค็อก-ฟาร์เรลล์ นายด่านเจ้าถิ่นที่ช่วยเซฟไว้ได้

    จบครึ่งแรก ไอร์แลนด์เหนือ ยังเสมอกับ เยอรมัน 0-0

    ครึ่งหลัง นาที 48 เยอรมัน มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 บอลเริ่มจาก ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ ครอสด้วยขวามาให้ ยูเลี่ยน บรันด์ท เช็ดบอลไปเสาไกลถึง มาร์เซล ฮัลส์เทนเบิร์ก เอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งเสียบเสาไกลชนิดงามหยด

    กลายเป็นทัพอินทรีเหล็กที่บี้อย่างหนัก และเกือบได้ประตูนำห่างอีกในนาที 50 จาก ติโม แวร์เนอร์ ที่ยิงไปติดเซฟ ไบลี่ย์ พีค็อก-ฟาร์เรลล์ 

    อีกสามนาทีถัดมา แวร์เนอร์ คนเดิมรับบอลจาก มาร์โค รอยส์ ซัดบริเวณกลางประตูบอลพุ่งจะเบียดเสาแรกเข้าอยู่แล้วแต่ พีค็อก-ฟาร์เรลล์ ยังไวบินปัดปลายนิ้วได้อย่างหวุดหวิด

    นาที 63 แฟนบอลเยอรมันเกือบเงียบกริบ หลัง สจ๊วร์ต ดัลลัส หลุดเข้าไปกดด้วยขวา บอลพุ่งผ่านปากประตูเฉียดเสาไกลออกไปแบบได้เสียว

    นาที 70 ไค ฮาแวร์ตซ์ ตัวสำรองที่ลงมาเล่นแทน ติโม แวร์เนอร์ ได้โอกาสโขกในกรอบบอลหลุดเสาไปแบบได้ลุ้น 

    ท้ายเกมเจ้าถิ่นมีโอกาสตอบโต้ขึ้นมาหน้ากรอบแบบได้เสียว แต่จังหวะสุดท้ายยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 "อินทรีเหล็ก" มาได้ประตูปิดท้ายจากจังหวะส่งของ ไค ฮาแวร์ตซ์ มาให้ แซร์จ นาบรี้ ซัดด้วยขวาผ่านตัว พีค็อก-ฟาร์เรลล์ เข้าไป เป็นประตูที่ 9 ให้ทีมชาติใน 10 ล่าสุดที่ลงสนาม

    จบเกม ไอร์แลนด์เหนือ พ่ายคาบ้านให้ เยอรมัน 0-2 ส่งผลให้ไอร์แลนด์เหนือแพ้เป็นเกมแรก ถูกหยุดสถิติชนะรวดไว้แค่ 4 เกมติดต่อกัน ขณะที่สามแต้มของทัพอินทรีเหล็กทำให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 12 คะแนนเท่ากับไอร์แลนด์หนือแต่ลูกได้เสียดีกว่า จึงนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ซี

       รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        ไอร์แลนด์เหนือ (4-3-3) :  ไบลี่ย์ พีค็อก-ฟาร์เรลล์ - สจ๊วร์ต ดัลลัส, เคร็ก แคธคาร์ท, จอนนี่ อีแวนส์, จามาล เลวิส - แพดดี้ แม็คแนร์, สตีเว่น เดวิส, จอร์จ ซาวิลล์ (จอช มาเกนนิส น.70) - ไนออล แม็คกิ้นน์ (กาวิน ไวท์ น.59), คอเนอร์ วอชิงตัน (เชย์น ลาเวรี่ น.83), คอร์รี่ อีแวนส์

        เทรนเนอร์ : ไมเคิ่ล โอนีล

        เยอรมัน (4-3-3) : มานูเอล นอยเออร์ - ลูคัส คลอสเตอร์มันน์, นิคลาส ซือเล่, มัทธีอัส กินเทอร์ (โจนาธาน ทาห์ น.40), มาร์เซล ฮัลส์เทนเบิร์ก - โทนี่ โครส, โยชัว คิมมิช, ยูเลี่ยน บรันด์ท - มาร์โค รอยส์ (เอ็มเร่ ชาน 85), แซร์จ นาบรี้, ติโม แวร์เนอร์ (ไค ฮาแวร์ตซ์ น. 68)

        เทรนเนอร์ : โยอาคิม เลิฟ

        ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี)