อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด เคยหักปากกาเซียนมาแล้วในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อพลิกนรกปราบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำเรื่องมหัศจรรย์แบบนั้นอีกครั้งในการปะทะกับยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน
ฉะนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องทำยังไงในการเอาชนะ บาร์ซ่า เพื่อผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ถ้วย "บิ๊กเอียร์" นั่นเป็นประเด็นที่น่าสนใจเลยทีเดียว แน่นอนงานนี้อาจจะเหมือนการเข็นครกขึ้นภูเขา หรืองมเข็มในมหาสมุทร แต่อย่าลืมว่า "ผีแดง" เคยทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้มาแล้ว
1. ขุมกำลังแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องฟูลทีม
โปรแกรม 2 แมตช์ที่พบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเจอกับสถานการณ์ที่สุดแสนยากลำบากเนื่องจากปัญหานักเตะบาดเจ็บเต็มทีม โดยในเกมแรกผู้เล่น "ปีศาจแดง" ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการแข่งขัน ขณะที่ในแมตช์สอง มีผู้เล่นสำคัญ 2-3 คนต้องพลาดลงสนามเนื่องจากนักเตะได้รับบาดเจ็บก่อนเกมนั้นด้วย
แม้ว่า โซลชา ดูเหมือนจะหมดหวังสำหรับขุมกำลังของ "ปีศาจแดง" เพราะดูจากมุมไหนแล้วมันยากมากๆ ที่พวกเขาจะเขี่ย "เปแอสเช" หลุดจากวงโคจร แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ในที่สุดด้วยนักเตะดาวรุ่งกับผู้เล่นหลักที่มีจำกัดบวกกับแท็คติกของ กุนซือชาวนอร์เวย์ ทำให้พวกเขาสามารถผ่านด่านสุดหินไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
อย่างไรก็ตามในเกมที่ต้องพบกับ บาร์เซโลน่า พวกเขาจำเป็นต้องมีขุมกำลังฟูลทีมเพื่อเป็นตัวเลือกในการดวลกับยอดทีมแห่งศึกลา ลีกา โดยข่าวดีของบรรดาสาวก "เร้ด อาร์มี่" ก็คือบรรดานักเตะที่มีปัญหาบาดเจ็บน่าจะค่อยๆ ทยอยฟื้นตัว ส่วน ปอล ป็อกบา พ้นโทษแบนลงเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ด้วย
2. เกมสองเยือนคัมป์ นู
สถานการณ์ของ "ผีแดง" คล้ายๆ กับในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดย แมนฯ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมเยือนนัด 2 สำหรับในกรณีนี้อาจจะเป็นการช่วยพวกเขาเหมือนกับในเกมที่ชนะ "เปแอสเช" ด้วยกฎประตูทีมเยือน และที่สำคัญ บาร์เซโลน่า อาจจะต้องเจอแรงกดดันเมื่อต้องเล่นในบ้านตัวเองด้วย
หากจำกันได้ แมนฯ ยูฯ ลงเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เกมแรกและต้องแพ้ แซงต์-แชร์กแมง 0-2 นั่นทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝาในเกมบุกกรุงปารีส แต่สุดท้ายการบุกชนะ 3-1 ทำให้สกอร์รวม 2 นัดเสมอ 3-3 แต่ "ปีศาจแดง" ได้ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยกฎประตูทีมเยือน หรือ อะเวย์โกล
ด้วยเหตุนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องคิดว่าพวกเขาต้องยิงประตูเท่าไหร่ในเกมนัด 2 เพื่อจะได้ผ่านเข้ารอบ และสิ่งนี้มีโอกาสที่จะช่วยให้พวกเขามีการวางแผนที่ชัดเจนสำหรับการบุกทะยานฟ้าไปเยือนสนามคัมป์ นู ขณะเดียวกับคอลูกหนังก็เคยเห็น "เจ้าบุญทุ่ม" สะดุดในการแข่งขันรอบนี้ช่วงหลายๆ ฤดูกาลก่อนหน้านี้ และ "ผีแดง" คงจะคาดหวังบางสิ่งแบบนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง
3. แท็คติกที่ยากจะคาดเดาของ โซลชา
"น้าลูกอม" โชว์ให้เห็นถึงกึ๋นระดับเทพมาแล้วในการช่วง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดพิการปราบซ่า แชมป์ลีก เอิง ฝรั่งเศส ในเกมนัด 2 แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในเกมนั้น โซลชา ต้องใช้ประโยชน์จากขุมกำลังที่มีอยู่ให้ดีที่สุด และเน้นเรื่องระบบการเล่นซึ่งทำให้ ปารีส ต้องเจอกับความยากลำบากในยามที่ปะทะกันในสนาม
แท็คติกที่โดดเด่นของ โซลชา เกิดขึ้นในช่วงต้นเกมเมื่อเขาตัดสินใจส่ง ดีโอโก้ ดาโลต์ ลงมาแทน เอริค ไบยี่ ที่ดูเหมือนจะเป็นบ่อน้ำมันชั้นดีให้นักเตะ "เปแอสเช" บุกเข้ามาเจาะใส่เขาตลอด หรือแม้แต่การสั่งให้นักเตะกองหลังพยายามขยับขึ้นมาสูง สิ่งนี้เป็นการพิสูจน์กึ๋นของ โซลชา ในฐานะกุนซือชั้นยอดเลยทีเดียว
สำหรับโปรแกรมกับ บาร์ว่า แน่นอนว่า แมนฯ ยูฯต้องมีการวางแผนทีเด็ดเพื่อที่จะทำให้พวกเขาสามารถหักปากกาเซีนด้วยการปราบ บาร์เซโลน่า และบุคคลสำคัญที่จะทำให้สิ่งนั้นได้ก็คือ โซลชา ฉะนั้น บาร์ซ่า คงต้องระวังกึ๋นเด็ดๆของ นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ เอาไว้ให้ดีๆ