ทีมแชมป์ติดเต็ม ! 11 แข้งยอดเยี่ยมแชมเปี้ยนส์ ลีก ของ มูรินโญ่
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2018-19 จบลงอย่างสมบูรณ์แบบ โดย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ได้สลักชื่อลงในโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" เมื่อพวกเขาปราบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 ที่สนามว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน พร้อมกับจารึกชื่อในฐานะสโมสรที่ได้แชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 6
ความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล นอกจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ปลุกปั้นทีม บรรดาขุนพลทั้งหมดมีส่วนสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้ แต่นอกจากความเก่งฉกาจของแข้ง "หงส์แดง" แล้ว ทีมอื่นๆ ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน โดย โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือโชกโชนประสบการณ์ และความสำเร็จ ได้มีการจัด 11 ตัวจริงแข้งยอดเยี่ยม แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยมี 6 นักเตะ "เดอะ เร้ดส์" เป็นแกนหลัก
อดีตนายใหญ่ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยกให้ อลีสซง เบ็คเกอร์ เป็นผู้รักษาประตูมือ 1 โดยมี 3 แนวรับได้แก่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คุมเกมรับ พร้อมกับจับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ป่วนเกมรุก ขณะที่กองกลาง คริสตียน อีริคเซ่น จาก "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ โดยงานนี้ มูรินโญ่ ให้เหตุผลว่าที่เลือก 4 จาก 5 ในแผงเกมรับเป็นนักเตะจากแชมป์ "ถ้วยใบโตยุโรป" ประจำฤดูกาลนี้
"ผมเลือก อลิสซง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันเสาร์ (เกมนัดชิง) เขาจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาเมื่อเขาจำเป็นต้องไปอยู่ตรงจุดเหล่านั้น"
"สองฟูลแบ็ก ต้องเป็นนักเตะลิเวอร์พูลแน่นอน พวกเขาเป็นนักเตะที่สุดน่าเหลือเชื่อ (เทรนต์) อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ (แอนดรูว์) โรเบิร์ตสัน ทั้งคู่มีแคแรกเตอร์ และความมุ่งมั่นทุ่มเทที่สุดยอดมากๆ คนหนึ่ง (อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์) เป็นนักเตะท้องถิ่น ส่วนอีกราย (โรเบิร์ตสัน) เป็นชาวสกอตแลนด์ แถมเมื่อไม่กี่ปีก่อนเล่นกับทีมตกชั้นอย่าง ฮัลล์ ซิตี้"
"ทั้งสองคนมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง พวกเขาเล่นได้อย่างดุดัน พวกเขาคือนักเตะที่ผมเรียกในวงการฟุตบอลว่า -ความทะนงที่ดีเยี่ยม- พวกเขาไม่กลัวที่จะเล่น พวกเขาพร้อมเติมเกมรุก และมีส่วนในเกมบุกของทีม อย่างในเกมเมื่อวันเสาร์ตอนที่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันพวกเขาก็ยังทำได้ดี ส่วน ฟาน ไดค์ คือสุดยอดนักเตะ มีบุคลิคความเป็นผู้นำ สำหรับตำแหน่งนี้ เขาเป็นนักเตะชั้นยอดไปแล้ว"
ส่วนในตำแหน่งอื่นๆ นายใหญ่ว่างงานชาวโปรตุกีส เลือกผู้เล่นที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ "ม้าลาย" ยูเวนตุส รวมทั้งบรรดานักเตะจาก แมนฯ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดที่เขากุมบังเหียน
"ผมไม่เลือกนักเตะที่ไม่ได้เข้ารอบรองชนะเลิศ มันเป็นไปตามหลักการ, ความยุติธรรม และสมเหตุสมผล มีนักเตะบางคนที่ทำหลายๆ อย่างได้น่าเหลือเชื่อ แต่ผมคิดว่าเพื่อให้ทุกอย่างแฟร์ๆ เราควรโฟกัสไปที่นักเตะของทีมที่ได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ"
ลิโอเนล เมสซี่ ติดอยู่ในทีมนี้ด้วย หลังจากซัดไป 12 ประตูจาก 10 เกม โดยมี มาเน่ กับ ซาลาห์ เป็นผู้เล่นเกมรุกร่วมกัน โดย มูรินโญ่ กล่าวว่า "มันน่าผิดหวังในเกมนัด 2 ที่แอนฟิลด์ โดยเฉพาะ เมสซี่ ส่วนที่ไม่มี โรนัลโด้ ในเกมที่คัมแบ็กอย่างสุดยอดแมตช์ปะทะ แอตเลติโก (มาดริด) เพราะเขาไม่ได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ แต่ เมสซี่ ทำได้ และทำผลงานน่าอัศจรรย์ในรอบรองชนะเลิศเกมแรก"
ขณะที่ มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีม และ ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค กับ แฟรงกี้ เดอ ยอง 3 สตาร์อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ติดอยู่ในทีมด้วย โดยงานนี้ อดีตกุนซือ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน, "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด และ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ให้เหตุผลว่าทั้งสามคนนี้เป็นนักเตะที่มีบุคลิคยอดเยี่ยมและมีอนาคตสดใสรออยู่"
