ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศกันแล้ว โดยเป็นการเจอกันระหว่าง โปรตุเกส ซึ่งปราบ สวิตเซอร์แลนด์ ในรอบที่ผ่านมาพร้อมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ยิงแฮตทริกในเกมนั้น เตรียมจะพบกับทัพ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ซึ่งก็ไม่น้อยหน้าเอาชนะอังกฤษมาได้ในรอบรองชนะเลิศ คาดว่าคืนนี้เตรียมมันส์กันได้เลย ก่อนจะไปชมเกมเรามีประเด็นร้อนมาฝากทุกท่านเช่นเคย

ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศกันแล้ว โดยเป็นการเจอกันระหว่าง โปรตุเกส ซึ่งปราบ สวิตเซอร์แลนด์ ในรอบที่ผ่านมาพร้อมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ยิงแฮตทริกในเกมนั้น เตรียมจะพบกับทัพ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ซึ่งก็ไม่น้อยหน้าเอาชนะอังกฤษมาได้ในรอบรองชนะเลิศ คาดว่าคืนนี้เตรียมมันส์กันได้เลย ก่อนจะไปชมเกมเรามีประเด็นร้อนมาฝากทุกท่านเช่นเคย

1.ผู้ชนะได้อะไร

    อาจจะเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เราเลยมาทบทวนให้อีกสักรอบ ความจริงรอบน็อคเอ้าท์นี้ไม่ได้มีผลต่อการคัดเลือกยูโร 2020 มากนัก เพราะ 4 ทีมที่ผ่านเข้ารอบมาทั้งหมด (โปรตุเกส, สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ, ฮอลแลนด์) ซึ่งพวกเขาถือเป็นจ่าฝูงในแต่ละกลุ่ม จะได้รับการันตีว่าได้เล่นเพลย์ออฟยูโร 2020 หากพวกเขาไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกได้ 

    ส่วนผู้ชนะเลิศก็ไม่ได้สร้างความได้เปรียบอะไร แค่จะได้ชูถ้วย ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เป็นครั้งแรกพร้อมกับรับเงินรางวัล 10.5 ล้านยูโร (ประมาณ 372 ล้านบาท) ขณะที่รองแชมป์จะรับเงินรางวัล 9 ล้านยูโร (ประมาณ 318 ล้านบาท) 

2.โรนัลโด้ vs ฟาน ไดค์

    น่าจะเป็นสิ่งที่หลายจับตามองมากที่สุดในเกมนี้ การปะทะกันของสุดยอดแนวรุกระดับโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับปราการหลังที่ได้รับยกย่องว่าดีที่สุดในยุคนี้อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ น่าจะเป็นศึกที่ดุเดือดเป็นแน่แท้ หลายคนคาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฟาดแข้งกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้แต่สุดท้ายทั้งสองก็ได้มาพบกันในนัดชิงชนะเลิศทีมชาติแทน  

    แม้ว่า โรนัลโด้ จะสามารถทำประตูได้ทุกรูปแบบ แต่สิ่งที่เป็นหนึ่งในจุดแข็งของเขาคือ ลูกกลางอากาศ กองหน้าโปรตุเกส ใช้หัวโขกพังประตูใน ชปล. ไปทั้งหมด 24 ประตูตลอดการค้าแข้งของเขาซึ่งถือเป็นสถิติที่มากที่สุดในรายการนี้ อย่างไรก็ตาม ปราการหลังหงส์แดง ก็ถือได้ว่าเป็นเจ้าเวหาในซีซั่นนี้เนื่องจากเขาสามารถชนะในการดวลลูกลางอากาศมากถึง 223 ครั้งจากการขึ้นดวลทั้งหมด 305 ครั้ง คิดเป็นเปอร์เซนต์เท่ากับ 73.11% นี่ยังไม่รวมอีก 4 ครั้งในเกมกับ อังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดูแค่สถิติก็สนุกแล้วคืนนี้ใครจะได้เป็นเจ้าเวหาของแท้รอชมกันได้เลย

3.จับตาสองแข้งสุดฮอตในตลาดนักเตะ

    เชื่อว่าใครได้ตามข่าวการซื้อขายคงจะเบื่อชื่อของ มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ เป็นแน่แท้ บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ต่างยื่นข้อเสนอเกทับกันเป็นว่าเล่นจนบัดนี้ยังเดาไม่ออกเลยว่าปราการหลังดาวรุ่งฮอลแลนด์คนนี้จะลงเอยที่ทีมไหน แต่ระหว่างรอการซื้อขายเชื่อว่าหลายคนก็คงอยากมาดูฟอร์มการเล่นว่าเขาคุ้มกับค่าตัวมหาศาลที่ต้องจ่ายไปหรือไม่ 

    ถ้าใครได้ดู เดอ ลิกท์ ลงเล่นในรอบรองชนะเลิศจะเห็นได้ว่าเจ้าตัวมีปัญหากับการรับมือนักเตะคล่องๆ เนื่องจากเขาพลาดท่าสไลด์บอลช้าจนทำเสียจุดโทษ และยังมีช็อตติดตาที่โดน จาดอน ซานโช่ แตะบอลลอดขาจนเสียผู้เสียคน ทว่า เดอ ลิกท์ กลับมาแก้ตัวได้ด้วยการโขกประตูตีเสมอและเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้นในครึ่งหลังจนพาทีมเข้ารอบได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายคนคงคาดหวังที่จะเห็นฟอร์มที่ดีกว่านี้ ไม่แน่ว่าหากเขาสามารถเค้นฟอร์มได้สุดทางค่าตัวอาจจะมีพุ่งกระฉูดอีกก็เป็นได้

    ส่วนอีกหนึ่งนักเตะที่ฮอตไม่แพ้กันคือ ชูเอา เฟลิกซ์ กองหน้าของทีม เบนฟิก้า ซึ่งลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกในนามทีมชาติในรอบรองชนะเลิศที่เจอกับ สวิตเซอร์แลนด์ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกเลยช่วยทีมไม่ได้มากนัก และโดนเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง อย่างไรก็ตามนักเตะลงเล่นทีมชาติชุดใหญ่น้อยมาก คงต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร มาดูกันว่าคืนนี้เขาจะโชว์ฟอร์มเก่งได้หรือไม่

4.กลางคุณภาพ

    หนึ่งในนักเตะที่ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากในรอบรองชนะเลิศระหว่างคู่ อังกฤษ ปะทะ ฮอลแลนด์ คือ แฟร้งกี้ เดอ ยอง กองกลางชาวดัตช์นั่นเอง เจ้าตัวมีสถิติยอดเยี่ยมเหลือเกินในเกมนั้นเนื่องจากผ่านบอลสำเร็จ 105 ครั้ง แย่งบอล 5 ครั้ง ตัดบอล 3 ครั้ง และผ่านบอลสำคัญอีก 2 ครั้ง เรียกได้ว่ากองกลางของอังกฤษไม่สามารถรับมือกับเขาได้เลยแม้แต่น้อย ไม่แปลกใจที่ บาร์เซโลน่า จะควักเงินถึง 65 ล้านฟอนด์เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทัพในฤดูกาลหน้า คืนนี้หากโปรตุเกสต้องการกุมความได้เปรียบในแดนกลาง อาจจะต้องหาวิธีรีบมือและทำให้เจ้าตัวเล่นยากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มาดูกันว่าทีมฝอยทองจะทำอย่างไรกัน

5.ฝอยทองข่ม

    นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกคืนนี้จะเป็นการเจอกันครั้งที่ 15 ของทั้งสองทีม โดย โปรตุเกส ถือว่ามีสถิติข่มอยู่พอสมควรเนื่องจากพวกเขาซิวชัยชนะถึง 7 นัด ขณะที่ ทัพอัศวินสีส้ม ชนะเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น อย่างไรก็ตามหนึ่งในสองนัดนี้เกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งคืนนั้น ฮอลแลนด์ บุกถล่มยับถึง 3-0 จากประตูของ เมมฟิส เดอปาย, ไรอัน บาเบิล และเฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ส่วนถ้านับทัวร์นาเม้นต์ที่เป็นทางการ พวกเขาเจอกันล่าสุดคือฟุตบอลยูโร 2012 รอบแบ่งกลุ่มซึ่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหมาสอปงระตูในเกมนั้นช่วยให้ โปรตุเกส ชนะ ฮอลแลนด์ 2-0