อังกฤษ ยุค "ยังบลัด" ภายใต้การกุมบังเหียนของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ล่าสุดบุกถล่ม มอนเตเนโกร ยับเยิน 5-1 ทำให้พวกเขาเก็บชัยชนะ 2 แมตช์ติดต่อกัน รั้งอันดับ 1 กลุ่ม เอ ในการทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" รอบคัดเลือ
กระตุกหนวดสิงโต ! ชำแหละ 5 ข้อ อังกฤษ จัดหนักขย้ำ มอนเตเนโกร ยับ
สำหรับเกมนี้ "สิงโตคำราม" อาจจะเริ่มต้นไม่ดีนักเมื่อเสียประตูให้เจ้าบ้านไปก่อน แต่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงหัวใจนักสู้ และบรรดาผู้เล่นคนหนุ่มวัยฉกาจฉกรรจ์ไม่เคยมีอาการวิตกกังวล แถมยังเดินหน้าเพื่อหวังจะทำประตูคืน และเพียงไม่นานก็ประสบความสำเร็จ
ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะ อังกฤษ ชุดนี้ยังจัดการตอบแทนเจ้าบ้านที่บังอาจกระตุกหนวด "สิงโต" ด้วยการจัดดอกเบี้ยทบต้นทบดอกอีก 4 ประตูรวมเบ็ดเสร็จ 5 ลูกพูลสวัสดิ์ แน่นอนว่าผลงานแบบสร้างความชื่นอกชื่นใจให้กับบรรดาแฟนบอล "ทรี ไลอ้อนส์" อย่างมาก และด้วยวัยของนักเตะกอปรกับความกระหายในความสำเร็จกับกึ๋นของ เซาธ์เกต ดูแล้ว อังกฤษชุดนี้มีอนาคตสดใสเลยทีเดียว
1. ฮัดสัน-โอดอย โชว์ฟอร์มเด็ดพิฆาตเสียงวิจารณ์
คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นมากๆ ในเกมนี้ และต้องบอกว่านี่คือผลงานชั้นยอดของนักเตะที่วัยเพียง 18 ปี กับ 138 วัน ซึ่งทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดอันดับสอง ที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้ทีมชาติอังกฤษในเกมอย่างเป็นทางการ
ปีกดาวรุ่งพุ่งแรงเพื่อจะถูกเรียกตัวติดธง "สิงโตคำราม" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับความไว้วางใจจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่จับส่งลงเล่นตัวจริง โดยงานนี้ ฮัดสัน-โอดอย ทำให้กุนซือทีมชาติอังกฤษ และแฟนบอลเพื่อนร่วมชาติมีความสุขเพราะเขาช่วยทีมในการเล่นเกมบุกทั้งซ้ายและขวา
แน่นอนว่าผลงานชั้นยอดแบบนี้คงทำให้นักเตะได้รับโอกาสติดธงชุดใหญ่ไปอีกยาว แต่ที่น่าเซอร์ไพรส์ก็คือ ฮัดสัน-โอดอย ซึ่งยังไม่ได้ลงเล่นตัวจริงให้กับ เชลซี ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เลย ฉะนั้นการที่เห็นนักเตะลงเล่นตัวจริงเต็มเกมให้ อังกฤษ ก่อนต้นสังกัดของนักเตะ เป็นอะไรที่น่าแปลกพอสมควร
2. ไมเคิ่ล คีน แก้ตัวได้สำเร็จ
ไมเคิ่ล คีน ได้โอกาสสำคัญลงเล่นกองหลังตัวจริงร่วมกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ หลังจากที่ทั้งคู่เพิ่งรวมพลังช่วยเกมรับให้ อังกฤษ สุดเหนียวแน่นในแมตช์ถล่ม สาธารณรัฐเช็ก 5-0 ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามในเกมกับ มอนเตเนโกร เมื่อวันจันทร์ คีน เริ่มต้นได้น่าผิดหวังเมื่อเขาไม่สามารถสกัดกั้น มาร์โก้ เวโซวิช ทำให้ดาวเตะเจ้าบ้านหลุดเข้าไปยิงประตูให้ มอนเตเนโกร ขึ้นนำไปก่อน อย่างไรก็ตาม ปราการหลังเอฟเวอร์ตัน สามารถแก้ตัวได้สำเร็จเมื่อขึ้นไปโหม่งทำประตูตีเสมอให้ "ทรี ไลอ้อนส์"
นอกจากการทำประตูที่ยอดเยี่ยมแล้ว อดีตเด็กปั้น "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังทำผลงานได้ดีขึ้นในเกมนี้โดยเฉพาะการสกัดกั้นเกมบุกของ มอนเตเนโกร อยู่หมัด รวมไปถึงการจัดการลูกโด่งของเจ้าบ้านทำให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตู ไม่ต้องออกแรงป้องกันมากนัก
3. บาร์คลี่ย์ ฟอร์มแรงโดนใจ
เซาธ์เกต ตัดสินใจใช้กองกลาง 3 ตัวได้แก่ เดเล่ อัลลี่, เดแคลน ไรซ์ และ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ลงเล่นตัวจริงในเกมกับ มอนเตเนโกร และงานนี้เขาก็ตัดสินใจถูกต้อง เพราะแผงมิดฟิลด์ของ อังกฤษ ชุดนี้เล่นได้อย่างเข้าขาลงตัว และช่วยขับเคลื่อนเกมบุก อังกฤษ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของ อัลลี่ อาจจะดูเงียบๆ อยู่บ้าง สวนทางกับ บาร์คลี่ย์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดย มิดฟิลด์ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี มีส่วนแอสซิสต์ ให้ คีน โหม่งทำประตูตีเสมอ จากนั้นก็ยังทำ 2 ประตู ทำให้ อังกฤษ คว้า 3 คะแนนสำคัญในแมตช์นี้
สำหรับประตูที่ อังกฤษ ขึ้นนำ 2-1 แสดงให้เห็นถึงการเคลื่นที่ที่ชาญฉลาดของ บาร์คลี่ย์ เมื่อเขาสามารถหนีตัวประกบ และเข้าไปอยู่ในกรอบเขตโทษ จากนั้นก็โชว์ปฏิกิริยาว่องไวด้วยการแปบอลจากการยิงของ ฮัดสัน-โอดอย เปลี่ยนทางเข้าไปตุงตาข่าย ฉะนั้นเกมนี้ อดีตแข้งเอฟเวอร์ตัน โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์จริงๆ
4. เดแคลน ไรซ์ ผลงานเยี่ยม
เดแคลน ไรซ์ ได้ลงเล่นตัวจริงให้กับทีมชาติอังกฤษ เคียงข้าง ฮัดสัน-โอดอย และเขาก็เล่นได้ดีเยี่ยมมากๆ โดยกองกลาง "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดนวิจารณ์อย่างหนักจากการตัดสินใจเปลี่ยนขั้วไม่เลือกเล่นให้สาธารณรัฐไอร์แลนด์ มาสวมชุด "สิงโตคำราม"
ก่อนหน้านี้ ไรซ์ ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมที่ อังกฤษ เปิดบ้านไล่ถล่มยับไม่นับญาติ สาธารณรัฐเช็ก และสำหรับฟอร์มการเล่นในฐานะตัวจริงแมตช์เยือนมอนเตเนโกร ก็ถือว่าสุดยอด โดยเฉพาะการเล่นในแผงกองกลาง 3 ตัวร่วมกับ อัลลี่ และ บาร์คลี่ย์
แน่นอนว่าบทบาทของเขาในทีมชาติอังกฤษเกมล่าสุดไม่ใช่สิ่งที่เจ้าตัวถนัด แต่ ไรซ์ ก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยมโดยเฉพาะในการทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ตัวคุมเกม และปล่อยให้ บาร์คลี่ย์ กับ อัลลี่ ได้มีสมาธิ และมีอิสระในการเติมเกมรุกได้อย่างเต็มที่
5. เฮนเดอร์สัน ติดธงครบ 50 เกม
ต้องขอแสดงความยินดีกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แม้ว่าเขาจะโดนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ กองกลาง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ก็สมควรอย่างที่สุดที่จะได้มีชื่อว่าติดทีมชาติอังกฤษ ครบ 50 แมตช์ เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
กัปตันทีม "เดอะ เร้ดส์" ถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองแทนที่ เดเล่ อัลลี่ และไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือช่วยเวลาที่สุดแสนภาคภูมิใจสำหรับเขา และครอบครัวแน่นอน การได้ชื่อว่าติดธงให้กับบ้านเกิดครึ่งร้อย ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนที่ 59 ที่ประสบความสำเร็จแบบนี้
สำหรับ เฮนเดอร์สัน แน่นอนว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะทีมชาติอังกฤษ ที่ เซาธ์เกต ต้องรีบติดธงอยู่เสมอ และไม่มีอะไรต้องสงสัยว่า อดีตดาวเตะ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ มีโอกาสได้อยู่ในทัพ "สิงโตคำราม" ต่อไปอีกนานหลายปีหรือตราบที่ เซาธ์เกต ยังครองบัลลังก์กุนซือทีมชาติ
