5 ข้อเน้นๆ สิ่งที่เห็นเกมทีมชาติไทยเชือดตรินิแดดฯ สินทวีชัยสั่งลาน่าจดจำ

    1. การกลับมาของสามแข้งเจลีก
      โผ 11 ตัวจริงวันนี้ มีชื่อของ สามนักเตะที่ค้าแข้งที่เจลีก ญี่ปุ่น ทั้ง ธีราทร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งการมีพวกเขาทั้งสามคนอยู่ในสนาม เห็นได้ชัดเลยว่า เกมรุกของไทย เคลื่อนที่ได้เร็วกว่าเดิม

    สำหรับธีราทร แม้ต้นเกมจะโดนนาธาน ลูอิส เผาไปครั้งสองครั้ง แต่เมื่อเจ้าอุ้มเริ่มจับจังหวะได้ ก็สามารถเก็บแข้งเบอร์ 7 ได้อย่างอยู่หมัด ด้านชนาธิป ตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมที่มักจะเน้นถวายพานส่งให้เพื่อนยิง มีอยู่สองช็อต ที่เจ้าตัวลากขึ้นมาแล้วตัดสินใจซัดเอง ถือเป็นมิติใหม่ในนามทีมชาติของ "เจ" ส่วนธีรศิลป์ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และให้บอลฉลาดๆหลายครั้ง

    อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งหลัง มิโลวาน ราเยวัช ตัดสินใจถอด 2 ในสามคนนี้ออกจากสนาม เพื่อทดลองผู้เล่นที่จะใช้สำหรับสู้ศึกซูซูกิ คัพ 

    2. ความหลากหลายของสุมัญญา
      สามแดนกลางชุดแรกประกอบด้วย ปกเกล้า อนันต์, สุมัญญา ปุริสาย และ ชนาธิป โดยโค้ชชาวเซิร์บ วางหมากให้สุมัญญา ลงมาเล่นตัวต่ำเพื่อเชื่อมเกมจากหลังไปหน้ารวมถึงคอยตัดเกมทำลายจังหวะของตรินิแดดฯ 

    ส่วนในครึ่งหลัง สุมัญญา จากที่เล่นเป็นตัวตัดเกมก็เปลี่ยนขึ้นมาเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์เต็มตัว และก็ตอบแทนความไว้วางใจของโค้ช เมื่อเจ้าตัวโชว์คลาสอันเหนือชั้นยกบอลให้ฐิติพันธ์ ตัวสำรองที่ลงมา ยิงประตูชัย ซึ่งลูกนี้ผู้ที่ได้รับเครดิตเต็มๆ ก็คือสุมัญญา ที่เป็นคนตัดเกมจากจังหวะผิดพลาดของผู้เล่นตรินิแดดฯ และทำเกมขึ้นมาเอง แต่ก็ต้องชม เจ้านิวเหมือนกันที่อาศัยลูกขยันวิ่งเติมขึ้นมาหาช่องว่างจนทำให้เพื่อนจ่ายมาได้ นอกจากนี้ นี่ยังเป็นประตูในจังหวัดบ้านเกิดของเขา และก็เคยสังกัดสุพรรณบุรี เอฟซี เมื่อซีซั่น 2011 อีกด้วย

   3. ทดลองแข้งหน้าใหม่
     เริ่มต้นครึ่งหลัง ราเยวัช ตัดสินใจถอดสองแนวรุก ทั้งธีรศิลป์ และ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ออกโดยส่งสองดาวรุ่งลงมาเพื่อหวังใช้ความเร็วป่วนริมเส้นทั้งสองฝั่ง
 
    คนที่โดดเด่นมากก็ คือ อานนท์ เด็กคนนี้ใช้ความสามารถเล่นงานแบ็กซ้ายของตรินิแดดฯ ได้หลายครั้ง ส่วนศศลักษณ์ ยังไม่ค่อยมีบทบาทมากเท่าไหร่ 

    ส่วนแนวรับ สุพรรณ ทองสงค์ได้โอกาสลงเป็นตัวจริง แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาดให้เห็นบ้างกับจังหวะลูกกลางอากาศที่ปล่อยให้ผู้เล่นทีมเยือนได้ขึ้นโขก แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่าน ขณะที่ มิก้า ชูนวลศรี ก็รับผิดชอบพื้นที่ของตัวเองได้ดี โดยส่วนใหญ่เน้นไปทางเกมรับ

   4. แก้เกมได้ดี
     จริงอยู่ที่ครึ่งแรก ทีมชาติไทยปล่อยให้ตรินิแดดฯ ทำเกมเข้ามาป้วนเปี้ยนในพื้นที่สุดท้ายหลายครั้ง และสุ่มเสี่ยงต่อการเสียประตู แต่ในครึ่งหลัง ผู้เล่นแต่ละคนช่วยกันปิดพื้นที่ป้องกันไม่ให้โดนเข้าทำ โดยเฉพาะการประสานงานช่วยกันกันระหว่าง กองหลังและกองกลาง ที่ปัดกวาดเกมรุกของตรินิแดดฯ ได้อยู่หมัด

   5. เกมสุดท้าย เซฟสุดท้าย
     เป็นการลงสนามเกมสุดท้ายในนามทีมชาติได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะช็อตเซฟลูกยิงของลูอิส จ่อๆในกรอบเขตโทษ ซึ่งทำให้ทีมชาติไทยรอดพ้นจากการเสียประตู ก่อนที่ "ซูเปอร์ตี๋" จะเดินออกจากสนามท่ามกลางเสียงปรบมือที่สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี ถือเป็นการปิดฉากเส้นทางทีมชาติได้แบบเพอร์เฟคต์