ผลบอลออนไลน์ 24 ชม. อัพเดตตลอด สกู๊ปบอล

สาวก "เร้ด อาร์มี่" คงช็อกกันสุดๆ เมื่อเห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมดสิทธิ์ทำอันดับติดท็อปโฟร์ หลังทำได้แค่บุกเสมอ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ 1-1 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยการช่วยตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ย่อมส่งผลกระทบหลายๆ ด้านตามมา

5 ผลกระทบแมนยูหลังชวดตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก
arrow_drop_down

5 ผลกระทบแมนยูหลังชวดตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก

สาวก "เร้ด อาร์มี่" คงช็อกกันสุดๆ เมื่อเห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมดสิทธิ์ทำอันดับติดท็อปโฟร์ หลังทำได้แค่บุกเสมอ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ 1-1 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยการช่วยตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ย่อมส่งผลกระทบหลายๆ ด้านตามมา

    แน่นอนว่าในช่วงซัมเมอร์นี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เตรียมแผนที่จะดึงแข้งใหม่มาร่วมทีม แต่การที่ "ผีแดง" ชวดไปเล่นฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรป คงทำให้แข้งระดับโลกหลายคนคงต้องระงับความคิดที่จะไปเล่นให้กับพวกเขา หากมีทางเลือกที่ดีกว่า

    ขณะเดียวกันการรั้งสตาร์ของทีมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็อาจจะเริ่มยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากนักเตะเหล่านี้มีความทะเยอทะยานในการลงเล่นฟุตบอลรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระดับสโมสร และการไม่ได้ไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้พวกเขาต้องพลาดปะทะแข้งชั้นนำ และนั่นอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เลือกโบกมือลาทีม

1. สตาร์ประจำทีมเตรียมโบกมือลา
    เป็นเรื่องปกติที่นักเตะชั้นนำอยากจะอยู่กับสโมสรที่ประสบความสำเร็จ และได้เล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่การที่ "ปีศาจแดง" เจอกับสถานการณ์ที่ไม่ได้ตั๋วไปลุยถ้วยใบโตยุโรป นั่นหมายความว่าสตาร์ดังประจำทีมหลายคนคงเริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเองว่าจะอยู่ร่วมหัวจมท้ายต่อไป หรือออกไปหาความท้าทายใหม่ และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าปัจจุบัน

   ลองมองดูขุมกำลังของแมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานี้นักเตะระดับแม่เหล็ก และมีศักยภาพสูงอย่าง ปอล ป็อกบา, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ดาบิด เด เคอา คงเริ่มครุ่นคิดอย่างหนักถึงอนาคตของตัวเอง เพราะหากเลือกที่จะอยู่ร่วมกับทีมต่อไปนั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องยอมไปลุยศึกยูโรปา ลีก และพลาดได้ดวลกับนักเตะระดับโลกมากมายที่โม่เกือกในถ้วย "บิ๊กเอียร์"

    สาวก "เร้ด อาร์มี่" บางคนอาจจะบอกว่าในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็เลยไปลุยถ้วยใบนี้มาแล้ว และยังได้แชมป์ซะด้วย แต่อย่าลืมนะว่าในยุคนั้น "เฮียมู" ที่พกดีกรีระดับแชมป์มากมายจากทั้ง เชลซี, อินเตอร์ มิลาน, ปอร์โต้ และ เรอัล มาดริด ไม่ได้เป็นคนทำให้ทีมหลุดท็อปโฟร์ แต่เขาถูกแต่งตั้งเข้ามาทำงานแท้ หลุยส์ ฟาน กัล นั่นทำให้นักเตะสตาร์ดังพร้อมพลีกายถวายใจเพื่อรับใช้เฮียเพราะเชื่อมั่นดีกรีความสำเร็จมากมายของเขา

   สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง นักเตะอย่าง ป็อกบา, แรชฟอร์ด และ เด เคอา ต้องการความสำเร็จมากกว่าแค่การเล่นถ้วยใบเล็ก แถมในเวลานี้ทั้ง 3 คนยังเนื้อหอมสุดๆ เพราะทีมอย่าง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด หรือแม้แต่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่พร้อมทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อดึงพวกเขาไปร่วมทีม นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าคิดว่า ถ้าหากอยู่กับ แมนฯ ยูฯ แล้วยังจมปลักแบบนี้ สู้ไปสร้างชื่อกับทีมยักษ์ใหญ่ไม่ดีกว่าเหรอ ?

2. โซลชา โดนแรงกดดันมหาศาล
    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา  เข้ามาคุมทีมในฐานะ "ผู้กอบกู้" หลังจาก มูรินโญ่ สร้างผลงานดีมีคุณภาพจนทีมสาละวันเตี้ยลง โดยในช่วงแรกที่ได้รับงานในฐานะกุนซือชั่วคราว "น้าลูกอม" นำทีมสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นถึงโดยชนะ14 เกมจากทั้งหมด 19 นัดในทุกรายการ ที่สำคัญฟอร์มการเล่นของทีมทำให้แฟนบอล "ผีแดง" รู้สึกตื่นเต้น เพราะเหมือนได้เห็นจิตวิญญาณที่คุ้นเคยสมัยที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุมบังเหียนกลับคืนมาอีกครั้ง

    ด้วยผลงานแบบนี้แน่นอนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ย่อมต้องตอบแทนความดีความชอบด้วยสัญญาถาวรเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่หลังจากหมึกหยดสุดท้ายในข้อสัญญาคุมทีมถาวรที่ โซลชา เซ็นแห้งสนิท สถานการณ์ของ แมนฯ ยูฯ พลิกจากสวรรค์เป็นนรกแบบทันที

"ผีแดง" ชนะ 2 เกม แพ้ 5 เกม เสมอ 2 เกม จากการเล่นทุกรายการ โดยเฉพาะในแมตช์ล่าสุดที่เสมอ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการการันตีแล้วว่าพวกเขาหมดสิทธิ์คว้าอันดับท็อปโฟร์ นั่นหมายความว่าทีมต้องไปโม่เกือกในฟุตบอลถ้วยใบเล็กยุโรป

    หลายคนอาจมองว่า โซลชา ไม่ควรถูกตำหนิจากความตกต่ำของทีมในช่วงเวลานี้ เพราะนี่ไม่ใช่ทีมที่เขาสร้าง แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าแท็กติคของ กุนซือชาวนอร์เวย์ ในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย แถมบางเกมยังออกแนวเล่นโยนยาวอย่างเดียวซะด้วย  ทำให้เกิดคำถามขึ้นแล้วว่า โซลชา จะไหวไหมกับการแบกรับความคาดหวังจำนวนมหาศาลจากแฟนบอล "ปีศาจแดง"

    ในช่วงซัมเมอร์นี้ บอร์ดบริหารแมนฯ ยูฯ ประกาศแล้วว่าพร้อมให้งบ โซลชา ชอปปิ้งนักเตะที่เขาอยากได้มาร่วมทีม งานนี้หากได้ผู้เล่นที่ต้องการแล้ว แต่ทีมยังคงเล่นแบบไม่มีอนาคต นายใหญ่เบบี้เฟซ คงรู้ชะตากรรมว่าจะเป็นยังไงต่อไป !!??

 3. เตรียมโละนักเตะ
    อาจจะดูเหมือนเป็นการโยนความผิดให้กับผู้เล่นเกินไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าผลงานที่ย่ำแย่แบบนี้ส่วนหนึ่งมาจากการเล่นที่ไม่ได้เล่นของนักเตะบางคน แต่หากจะให้พูดตรงๆ แบบจริงใจ ก็ต้องบอกว่าผู้ที่มีอยู่ในทีมเวลานี้ถึงเวลาที่ต้องโดนโละได้แล้วกว่าครึ่งทีม

    เริ่มตั้งแต่กองหลัง แฟนบอล "ผีแดง" แทบทุกคนพร้อมยกแขนสนับสนุนให้เขี่ย คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์, มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ออกไปให้พ้นทีมได้แล้ว ส่วนที่ยังดูดีมีอนาคตก็คือ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เพราะนักเตะพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นแกนหลักในแนวรับของทีมยุค โซลชา ในรายของ แอชลี่ย์ ยัง กับ มาร์กอส โรโฮ และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย คงไม่รอดโดนตัดหางปล่อยวัดเช่นกัน  ส่วน เอริก ไบยี่ อาจจะได้รับโอกาสจาก "น้าลูกอม"

   ขณะที่แดนกลางกรณีของ ป็อกบา คงไม่ต้องพูดถึงเพราะใจของนักเตะรายนี้น่าจะล่องลอยออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นับตั้งแต่ที่ทีมพลาดตั๋วไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้ว เนมานย่า มาติช น่าจะยุติเส้นทางกับ "ผีแดง" เช่นเดียวกับ ฆวน มาต้า แต่ในรายของ อันเดร์ เอร์เรร่า แม้ทีมอยากเก็บตัวเอาไว้ แต่ดูท่าทางนักเตะคงต้องการโบกมือลาทีมมากกว่า

    สำหรับเกมรุก  อเล็กซิส ซานเชซ และ โรเมลู ลูกากู เตรียมที่หาสโมสรใหม่เล่นได้เลย ขณะที่ อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล หากไม่เปลี่ยนทัศนคติใหม่ แน่นอนว่า โซลชา คงไม่เก็บไว้ เพราะนักเตะที่ไร้ใจอยู่กับทีมต่อไปมีแต่ทำให้สปิริตในทีมพังอย่างเดียว

 4. แข้งระดับโลกเมินร่วมทีม
    หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ดึงดูดนักเตะระดับโลกย้ายมาเล่นกับสโมสรก็คืออนาคตทีมที่มีลุ้นคว้าแชมป์ และการได้ไปเล่นในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะนี่คือรายการสำคัญที่รวมบรรดานักเตะระดับเวิลด์คลาสอยู่โม่เกือกร่วมกัน และการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ไปเล่นในซีซั่นหน้า ถือเป็นการตัดเครดิตของพวกเขาไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

    ไม่ต้องอ้างกรณีของ ป็อกบา เพราะบอกไปแล้วว่านักเตะย้ายมาเนื่องจากบารมีของ มูรินโญ่ ที่การันตีแชมป์ชัวร์ๆ (และก็เป็นดั่งนั้น) ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, คาลิดู คูลิบาลี่, จาดอน ซานโช่, คัมลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, อารอน วาน-บิสซาก้า และ มัทไธจส์ เดอ ลิกต์ เป็นต้น อาจจะตื่นเต้นที่ "ปีศาจแดง" สนใจอยากดึงตัวไปร่วมทีม แต่พวกเขาจะมาเล่นไหมล่ะ ถ้าหากมีตัวเลือกอื่นที่ยิ่งใหญ่ไม่ต่างกัน แต่ได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก !??

การที่ทีมไม่ได้ไปเล่นถ้วยหูกาง ทำให้พวกเขาเสียเครดิตไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ชื่อชั้นของกุนซือก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นักเตะระดับโลก อาจจะเมินย้ายมาสวมเครื่องแบบ "ผีแดง" แม้บางคนอาจจะมองว่า โซลชา ก็มีดีระดับแชมป์ลีกสูงสุดนอร์เวย์กับสโมสรโมลด์ แต่มันมีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้แข้งชั้นนำอยากมาร่วมทีมไหมล่ะ


5. ตัดงบค่าเหนื่อยกระจุย
    บอร์ดบริหารแมนฯ ยูไนเต็ด มีนโยบายชัดเจนว่าเมื่อทีมไม่ได้โควตาไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แน่นอนว่าพวกเขาย่อมขาดรายได้มหาศาลจากการแข่งขันในรายการนี้ ฉะนั้นเพื่อทำให้บัญชีของสโมสรมีความสมดุลการลดค่าเหนื่อยของนักเตะ 25 เปอร์เซ็นต์ จึงมีความจำเป็นมากๆ

   คิดดูก็แล้วกันนักเตะอย่าง ป็อกบา ที่มีรายงานว่าได้รับค่าเหนื่อยระดับ 300,000 ปอนด์ (ราว 12.30 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ จะเหลือแค่ 225,000 ปอนด์ (ราว 9.22 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ แถมแผนที่จะขยายสัญญากับ เด เคอา ซึ่งเรียกร้องค่าเหนื่อยสูงถึง 350,000 ปอนด์ (ราว 14.35 ล้านบาท) จะได้รับการอนุมัติไหมล่ะ

    แน่นอนว่าการลดรายได้ของนักเตะยังส่งผลกระทบไปยังด้านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน อย่างการยื่นข้อเสนอให้นักเตะที่เล็งเอาไว้ย้ายมาร่วมทีม และการให้โบนัสเพื่อสร้างแรงจูงใจสำหรับนักเตะในการทำผลงานให้ดีที่สุดในการลงเล่นฤดูกาล 2019-2020

 

 

 

 

 

SHARE ON