ผลบอลออนไลน์ 24 ชม. อัพเดตตลอด สกู๊ปบอล

5 ประเด็นร้อน นิชิโนะปลดล็อก สุภโชคแผลงฤทธิ์ ไทยอัดสบายแต่อย่าชะล่าใจ

5 ประเด็นร้อน นิชิโนะปลดล็อก สุภโชคแผลงฤทธิ์ ไทยอัดสบายแต่อย่าชะล่าใจ
arrow_drop_down

ชัยชนะเหนืออินโดนีเซีย ถึงกรุงจาการ์ต้า 3-0 เป็นผลงานที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะฟอร์มของสุภโชค สารชาติ ที่มีส่วนร่วมกับประตูทุกลูก อีกทั้งยังเป็นการคว้าชัยเกมแรกของอากิระ นิชิโนะ กับทีมชาติไทยได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามแม้จะได้สามแต้มแบบสวยหรู แต่มันยังมีอะไรให้เรากลับมาทำการบ้านและเดินหน้าเพื่อเกมต่อไป

*นิชิโนะ ใจถึงส่งเจ้าบุ้คตัวจริง ได้ใจแฟนบอล
    อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย ปรับผู้เล่นสองตำแหน่งจากเกมเสมอเวียดนาม โดยถอดตั้ม-ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ออก อีกหนึ่งคนคือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ถอนตัวจากอาการเจ็บ โดยส่งเจ้าบุ้ค-เอกนิษฐ์ ปัญญา ตัวรุกดาวรุ่งวัย 19 ปีจากเชียงราย ยูไนเต็ด และศุกชัย ใจเด็ด ลงเป็นหอกตัวเป้า

 

 

    เกมนี้ เฮดโค้ชเลือดซามูไร วางระบบ 4-2-3-1 โกล เป็นศิวลักษณ์ เทศสูงเนิน แนวรับยืนคงเดิม ทริสตอง โด, มานูเอล ทอม เบียรห์, พรรษา เหมวิบูลย์ และธีราทร บุญมาทัน แดนกลางวางสารัช อยู่เย็น กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล เป็นตัวต่ำ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยืนสูงตรงกลางแล้วมีสุภโชค สารชาติ กับ เอกนิษฐ์ ยืนปีกทั้งสองข้าง ส่วนหน้าเป้าคือศุภชัย เรียกว่าแผนนี้ของนิชิโนะ น่าจะถูกใจคนไทยหลายคนที่อยากเห็นตัวรุกลงสนามกันครบครัน

    ฝั่ง อินโดนีเซีย ของไซม่อน แมคเมนีมี กุนซือชาวสกอตช์ จัดผู้เล่นชุดใหญ่แดนหน้ามีเบโต้ กองหน้าตัวเก๋าวัย 38 ปียืนเป็นหัวหอก โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง สเตฟาโน่ ลิลิพาลี่ และอิฟราน บัชดิม ยืนอยู่ข้างหลัง

    การวางแท็กติกของนิชิโนะ วันนี้เราได้เห็นแผนระหว่างเกมอันหลากหลาย เวลาเราทำเกมบุก จะเห็นว่าแบ็กทั้งสองข้างของไทย เติมสูง โดยบ่อยครั้งที่ ธีราทร จะหุบมายืนตรงกลาง เหมือนที่เคยเล่นกับโยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส รวมถึง สารัช และพิธิวัตต์ ที่มีบางช่วงสลับกันเติมขึ้นสูง เช่นเดียวกับ เอกนิษฐ์ สลับกับ สุภโชค บ้าง

 

*แฟนบอลไม่เยอะอย่างที่คาด
    เกมนัดก่อนที่สนามเกโลรา บุง การ์โน กับมาเลเซีย เราเห็นภาพแฟนบอลในสนามแน่นขนัด แต่เกมนี้ตามที่ผู้สื่อข่าวของสยามสปอร์ต รายงานไปว่า ตั๋วเข้าชมเกมที่ดวลแข้งกับไทยกลับขายได้ไม่ถึงหนึ่งหมื่นใบ ซึ่งผิดคาดจากตอนแรกที่เราคิดว่าคนดูจะเข้ามาเหมือนเกมแรก

 

 

    พอถึงเวลาแข่งมันก็เป็นอย่างที่รายงานไปคือ บนอัฒจันทร์นั้นค่อนข้างโหรงเหรง มีแฟนบอลประมาณ 17,000 คนเท่านั้น ซึ่งน้อยมากหากเทียบกับความจุสนามที่สามารถรองรับได้ราวๆ 70,000 คน แน่นอนมันเป็นผลดีกับบรรดาแข้งไทยที่ไม่ต้องเจอกับสถานการณ์กดดันจากกองเชียร์เจ้าถิ่น

    แม้เสียงเชียร์จะมีมาบ้างเพื่อคอยกดดันทีมเยือน แต่บรรดาแข้งไทยก็ไม่ได้รู้สึกสะทกท้านยังเล่นตามเกมของตัวเอง ผลงานออกมาก็ทำได้ดีกว่าเจ้าถิ่นเยอะมาก ซึ่งในครึ่งหลัง หลังจากทีมชาติไทยได้ประตูขึ้นนำและทิ้งห่างไปเรื่อยๆ เหล่าแฟนบอลอินโดฯก็เริ่มรุมโห่ใส่นักเตะชาติตัวเอง

 

*จาก ซีโร่ สู่ ฮีโร่
    หลากหลายเสียงวิจารณ์ที่ถาโถมใส่ เจ้าเช็ค-สุภโชค แต่มันก็ไม่ทำให้เด็กวัย 21 ปีคนนี้มีความมั่นใจลดน้อยลงไปเลย

 


    จริงอยู่ครึ่งแรกเขาไม่ค่อยมีโอกาสได้เลี้ยงกระชากฝ่าแนวรับเหมือนเกมเจอเวียดนาม แต่ครึ่งหลังบทบาทของสุภโชค เริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับแนวรับอินโดฯ ตามประกบได้ไม่ดีเหมือนครึ่งแรก จนเจ้าเช็ก ใช้ลูกเก่งที่เราเห็นได้บ่อยๆในเกมลีก ลากบอลตัดเข้ากลางแล้วบรรจงซัดด้วยขวาเข้าประตูอย่างสวยงาม

    ขณะที่ประตูที่สอง เขาก็เรียกจุดโทษได้หลังถูกนายด่านอิเหนาทำฟาวล์ล้มลง ก่อนที่จะยิงปิดท้ายง่ายๆจากลูกจ่ายของธีราทร บุญมาทัน

    สองประตู กับเรียกหนึ่งจุดโทษ คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเกมนี้ สุภโชค สารชาติ คือแมน ออฟ เดอะ แมตช์ แน่นอน

    ส่วนเอกนิษฐ์ กับผลงานทีมชาตินัดแรก ถามว่าสอบผ่านไหม ก็คือว่าผ่านในระดับหนึ่งแต่ครึ่งแรกเจ้าตัวดูจะเกร็งๆไม่น้อย ไม่ได้โชว์ลีลาเลี้ยงผ่านคู่แข่งมากนัก แต่ภาพรวมถือว่าน่าพอใจ

 

*ทำอย่างไรเมื่อ"เมสซี่เจ"เล่นไม่ออก
    เป็นคำถามว่า หากวันใดชนาธิป สรงกระสินธ์ ไม่ได้อยู่ฟอร์มที่ดีที่สุดในเกมๆนั้น หรือไม่มีเขาลงสนาม ทีมชาติไทยจะเป็นอย่างไร

 

 

    สองเกมที่ผ่านมา คำตอบที่แฟนบอลได้เห็นแล้วคือ ชนาธิป โดนผู้เล่นฝั่งตรงข้ามตามประกบติดจนไม่ค่อยได้พลิกบอลทำเกมเท่าไหร่นัก ซึ่งนี่มันคือประโยชน์ทางอ้อมที่เราฉกฉวยได้ เพราะทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆ มีพื้นที่เล่นบอลขึ้นเยอะ โดยเฉพาะปีกทั้งสองข้าง ที่มีทักษะ ความเร็วที่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ดีไม่แพ้กัน

    สุภโชค, เอกนิษฐ์ ที่ลงเป็นตัวจริง ตัวสำรองที่ลงมาอย่าง ศิวกร เตียตระกูล หรือในม้านั่งสำรองก็ยังมี บดินทร์ ผาลา, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ล้วนแต่เป็นผู้เล่นที่มีความจัดจ้านในการทำเกมรุก

    สรุปคือการมีชนาธิป คือประโยชน์ของทีมชาติไทยโดยไม่มีข้อแม้ใดๆว่าเขาจะเล่นออกหรือไม่ออก เพราะการมีเขาอยู่เท่ากับว่าฝั่งตรงข้ามจะเสียโควต้าตัวประกบไปอย่างน้อยหนึ่งตัวเพราะต้องคอยตามประกบแข้งซัปโปโรเพื่อไม่ให้ทำเกมได้

    สำหรับกองหน้าตัวเป้าเกมนี้ อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด ต้องยอมรับว่าบทบาทไม่ได้มีมากเท่าที่ควร บางทีการคัดตัวในครั้งหน้า จำเป็นต้องหากองหน้าอีกอย่างน้อยหนึ่งคนมาเป็นตัวเลือก

 

*อินโดฯชุดนี้ไม่แกร่ง แม้ชนะได้แต่อย่าชะล่าใจ
  ต้องยอมรับว่า หลายปีมานี้มาตรฐานฟุตบอลอินโดนีเซีย ตกลงไปจากเดิมเยอะมาก

    เกมนี้ เราก็ได้เห็นแล้วว่าพวกเขาไม่สามารถต่อสู้อะไรกับทีมชาติไทยได้ดีเท่าไหร่ ผู้รักษาประตูไม่เก่ง กองหลังไม่แน่น กองหน้าไม่คมอย่างที่คาด และยิ่งหากเกมต่อไปอินโดฯไม่มีแต้มแล้ว ก็คงบอกลาโอกาสลุ้นเข้ารอบไปได้เลย

 

 

    ชัยชนะนัดนี้ของทีมชาติไทย นับเป็นการบุกชนะที่แผ่นดินอินโดนีเซีย เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจได้ แต่อย่าหลงระเริงกับชัยชนะนี้มากนัก เพราะฝั่งทัพการูด้า อยู่ในช่วงขาลงจริงๆ ซึ่งแน่นอนเกมหน้ากับ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ในวันที่ 15 ตุลาคม เป็นเกมที่หนัก และยังมีมาเลเซีย อีกทีมที่ผลงานเริ่มดีขึ้นมา แถมยังมีเกมต้องบุกไปเยือนเวียดนามอีก ที่แสดงให้เห็นว่าเอาทีมชาติไทยอยู่

 แน่นอน ผู้เล่นกองหน้าในเกมต่อๆไป เป็นเรื่องที่ นิชิโนะ จะต้องจัดการให้กระจ่างชัดกว่านี้เพราะหากวัดคะแนนความสามารถจากสองเกมที่ผ่านมานั้น ตำแหน่งนี้ยังไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้เท่าไหร่

 อย่างไรก็ตาม ความมั่นใจของนิชิโนะและนักเตะในทีมทุกคน มีเต็มเปี่ยม ประกอบกับเสียงเชียร์ของแฟนบอลชาวไทยที่แห่ซื้อบัตรเข้าชมหมดเกลี้ยง จะเป็นกำลังใจชั้นดีให้ทีมชาติไทยของเรา มีลุ้นผ่านเข้ารอบต่อไป

SHARE ON