1.เดปาย ฉายแวว
ช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นของทั้งสโมสรและทีมชาติจริงๆสำหรับ เมมฟิส เดปาย ประตู "ปาเนนก้า" สุดเหนือของเขาเมื่อคืนที่ผ่านมาก็เป็นประตูที่ 13 ในนามทีมชาติของเขา และทำให้ตอนนี้เขามีส่วนร่วมกับประตูมากถึง 41 ประตูจาก 52 นัดทั้งในทีมชาติและสโมสรในปีนี้ โดยซัลโวไปทั้งหมด 23 ประตูและทำแอสซิสต์อีก 18 ครั้ง
2.ลุ้นจ่าฝูงพร้อมส่งเยอรมันตกชั้น
การชนะของ ฮอลแลนด์ เมื่อคืนนี้ นั่นทำให้พวกเขาเก็บอีกสามแต้มทำให้ตอนนี้ทัพอัศวินสีส้มมีอยู่ 6 คะแนนตามหลัง จ่าฝูง ฝรั่งเศส อยู่เพียงแต้มเดียวแถมยังเหลืออีกหนึ่งเกมในมือ นัดหน้าพวกเขาขอแค่บุกเสมอเยอรมันได้เป็นอย่างน้อย ก็จะแซงขึ้นเป็นจ่าฝูงและเข้ารอบทันที เนื่องจากแม้เฮดทูเฮดจะเท่ากันกับทัพตราไก่ แต่ทว่าลูกได้เสีย ฮอลแลนด์ มากกว่าถึง 4 ประตู แน่นอนว่าหากคว้าแชมป์กลุ่ม นอกจากจะได้เข้ารอบรองชนะเลิศแล้ว ยังการันตีว่าจะได้เพลย์ออฟฟุตบอลยูโร 2020 หากทีมนั้นตกรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร
ขณะเดียวกันผลจากการแข่งขันนัดนี้ เยอรมัน มีแค่แต้มเดียวนั่นทำให้ ทัพอินทรีเหล็ก ต้องตกลงไปเล่นลีกบีใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ครั้งหน้า
3.ตราไก่ไม่แจ่ม
ต้องบอกว่าเกมนี้ ฝรั่งเศส พ่ายแพ้ในทุกเรื่องจริงๆ ทั้งสกอร์ที่ออกมา ทั้งการครองบอล ทั้งโอกาสยิงประตู แทบจะสู้ฮอลแลนด์ไม่ได้เลย แฟร็งค์กี้ เดอ ย็อง บัญชาการแดนกลางได้ดีเยี่ยมทำให้ทัพอัศวินสีส้มครองบอลอย่างเหนียวแน่นเลยทำให้แนวรุกตัวความหวังอย่าง คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ โดนตัดออกจากเกมไปเลย และการพ่ายแพ้ครั้งนี้ก็ทำให้ทัพตราไก่หยุดสถิติไม่แพ้ใครไว้ที่ 15 นัด
4.อัศวิน ปลดแอก
นี่เป็นเกมแรกในรอบ 4 ปี ที่ เนเธอแลนด์ สามารถเอาชนะฝรั่งเศสได้ โดยก่อนหน้าเกมนี้ ทัพตราไก่ ซิวชัยเหนือ ทัพอัศวินสีส้มมาได้ถึง 5 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2014 และ 2 ใน 5 นัดนั้นเป็นการเจอกันในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ซึ่งการที่ ฝรั่งเศส ซิวชัยทั้งสองนัด ก็มีส่วนทำให้ ฮอลแลนด์ อดไปฟุตบอลโลกหนล่าสุดด้วย เกมเมื่อคืนที่ผ่านมาก็เหมือนจะเป็นการแก้แค้นได้สำเร็จ แต่ทว่า ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก อาจจะยังไม่ใชทัวร์นาเม้นต์จริงจัง ก็ต้องมารอดูกันว่า ในปีหน้า รอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร ฮอลแลนด์ จะสามารถกลับมากู้หน้าพวกเขาได้อีกครั้งหรือไม่